คันป้องกันน้ำท่วมในเขตประกอบการเสรีนิคมบางปูแล้วเสร็จ ปีนี้ไม่ท่วมแน่

นิคมอุตสาหกรรมบางปู

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผยการก่อสร้างคันป้องกันน้ำท่วมบริเวณเขตประกอบการเสรีในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูแล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ ปีนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ติดตามภาพรวมการดำเนินงานของนิคมอุตสาหกรรมบางปู ในเรื่องต่าง ๆ ทั้งโครงการติดตั้งระบบเฝ้าระวังและไฟฟ้าส่องสว่างตามแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมนิคม ระบบติดตามตรวจสอบด้านความปลอดภัย (CCTV) ระบบตรวจเฝ้าระวังระดับน้ำอัจฉริยะ และระบบควบคุมระยะไกล (SCADA) การรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุและเหตุฉุกเฉิน และความคืบหน้าโครงการปรับปรุงระบบป้องกันน้ำท่วม

โดยในส่วนของความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางปูนั้น ขณะนี้การก่อสร้างระบบคันป้องกันน้ำท่วมเขตประกอบการเสรีดำเนินการเสร็จเรียบร้อย ขณะที่กำหนดการแล้วเสร็จทั้งโครงการนั้น คาดว่าภายในเดือนมกราคม 2568 อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูฝนนี้ กนอ.ได้กำชับผู้รับจ้างให้ดำเนินการป้องกันน้ำท่วมขณะก่อสร้างในบริเวณเขตประกอบการเสรีอย่างเข้มงวด เพื่อไม่เกิดผลกระทบ เนื่องจากพื้นที่มีระดับต่ำที่สุด หากมีฝนตกลงมาในปริมาณมากอาจเกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบการได้

ทั้งนี้ นอกจากมาตรการป้องกันน้ำท่วมที่ กนอ. ดำเนินการ เช่น การพร่องน้ำในพื้นที่ จัดเตรียมปั๊มสำรอง และการดูแลระบบปั๊มให้พร้อมใช้งานแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาห กรรมบางปูในการร่วมกันป้องกันน้ำท่วมด้วย โดยบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ติดตั้งระบบเฝ้าระวังระดับน้ำอัจฉริยะและระบบควบคุมระยะไกล (SCADA) อีก 4 สถานี และมีการแชร์ข้อมูลให้แก่ กนอ.ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น

“ปัจจุบันการก่อสร้างบริเวณเขตประกอบการเสรีนั้น ดำเนินการก่อสร้างคันป้องกันน้ำท่วมเสร็จแล้ว โดยคันดังกล่าวมีความสูง +1.9 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยาวประมาณ 1,765 เมตร ขณะที่กำแพงกันน้ำส่วนที่เหลือ การก่อสร้างปรับปรุงระบบระบายน้ำ และการก่อสร้างสถานีสูบระบายน้ำเพิ่มอีก 2 จุดนั้น ผมได้กำชับให้เร่งดำเนินการตามแผนที่วางไว้ และการก่อสร้างต้องอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย โดยคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จและใช้งานได้ภายในเดือนมกราคม 2568” นายวีริศกล่าว

กนอ.ยังลดการระบายน้ำจากนิคมอุตสาหกรรมบางปูออกสู่คลองสาธารณะด้านทิศเหนือ (คลองหกส่วน) และทิศตะวันออก (คลองลำสลัด) เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดกับชุมชนโดยรอบด้วย โดยการระบายน้ำจากพื้นที่ส่วนใหญ่ภายในนิคม จะสูบระบายลงสู่คลองชายทะเลด้านทิศใต้ รวมทั้งปิดจุดอ่อนบริเวณแนวขอบคันดินของพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูที่มีระดับต่ำ เพื่อป้องกันน้ำจากภายนอกไหลเข้าพื้นที่

นิคมอุตสาหกรรมบางปูมีพื้นที่ประมาณ 4,942 ไร่ มีผู้ประกอบการจำนวน 358 โรงงาน แบ่งเป็นเขตอุตสาห กรรมทั่วไป 318 โรงงาน และเขตประกอบการเสรี 40 โรงงาน มีผู้ใช้แรงงานประมาณ 58,000 คน มูลค่าการลงทุนรวม 203,595 ล้านบาท และมูลค่าการส่งออกประมาณ 49,833 ล้านบาท

โดยกลุ่มอุตสาหกรรม 5 อันดับแรกในพื้นที่ ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมปุ๋ย สี และเคมีภัณฑ์ 2.อุตสาหกรรมเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ 3.อุตสาหกรรมยาง พลาสติก และหนังเทียม 4.อุตสาหกรรมอุปกรณ์ไฟฟ้า และอิเล็ก ทรอนิกส์ และ 5.อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ โดยนักลงทุนในพื้นที่ มีทั้งนักลงทุนไทย ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ