คนไทยหวั่นกินทุเรียนแพง หลังเกิดปรากฎการณ์ลูกค้า”อาลีบาบา” ช็อปทุเรียนถล่ม

คนไทยหวั่นกินทุเรียนแพง หลังเกิดปรากฎการณ์ลูกค้า “อาลีบาบา” ช็อปทุเรียน ถล่ม 2 วัน 6 หมื่นคำสั่งซื้อ ‘สนธิรัตน์’ แจง ออร์เดอร์Tmall.com ยังน้อยหากเทียบกับผลผลิตในประเทศ – เปิดลงทุนโลจิสติกส์ไม่ขัด พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจต่างด้าวฯ เตรียมเดินหน้าหารือแพลตฟอร์มระดับโลก “อีเบย์-อเมซอน” ต่อยอดค้าออนไลน์

สร้างความฮือฮาไม่น้อย เมื่อ “นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึง ผลสำเร็จการเปิดช่องทางการค้าออนไลน์ Thai Rice Flagship Store บนเว็บไซต์ Tmall.com ซึ่งมีลูกค้า 650 ล้านคนจากทั่วโลกว่า แค่เพียง 2 วันแรกที่เริ่มเปิดตัวมีคำสั่งซื้อทุเรียน 60,722 คำสั่งซื้อ มูลค่า 60 ล้านบาทไทย และมีคำสั่งซื้อข้าวอีก 10 คำสั่งซื้อ ไทยตั้งเป้าหมายจะเพิ่มยอดจำหน่ายสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวให้ได้อีก 1 เท่าตัวใน 1 ปี ก่อนจะขยายความร่วมมือไปสู่สินค้าเกษตรอื่นๆ ต่อไป

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกระแสที่สังคมให้ความสนใจและมีความเป็นกังวลว่าทุเรียนจะมีราคาเพิ่มขึ้น จะเป็นการเปิดช่องให้สินค้าจีนเข้ามา ปิดกันผู้ประกอบการไทย ล้งทุเรียนได้ประโยชน์หรือแม้กระทบผลกระทบจากระบบลอจิสติกส์ที่อาลีบาบาจะเข้ามา กระทรวงพาณิชย์ได้ชี้แจงแล้วว่า การที่ทุเรียนจะปรับราคาขึ้นเป็นเรื่องดีสำหรับทุเรียนที่ได้คุณภาพและเป็นสินค้าเกรดเอ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรขายได้ราคา และทำให้เกษตรกรหันมาให้ความสนใจในการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดีขึ้น ซึ่งในปัจจุบันทุเรียนมีหลายเกรด หลายราคา

“ปริมาณที่อาลีบาบา ได้คำสั่งซื้อเมื่อเทียบปริมาณผลผลิตและการส่งออกทุเรียนนั้นยังห่างกันมาก ซึ่งคำสั่งซื้อที่ผ่าน Tmall.com เพียง 350 ตัน ซึ่งต่างจากปริมาณการส่งออกจริงต่อปีอยู่ที่ 5-6 แสนตัน ขณะที่ปริมาณผลผลิตที่คาดว่าจะออกในปีนี้อยู่ที่ 7.5 แสนตัน ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากังวลแต่อย่างไรว่าจะทุเรียนจะแพง”

ทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคม 2561 กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะจัดเจรจาธุรกิจการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยและผู้นำเข้าจีนในสินค้าทุเรียนและข้าว ภายใต้กิจกรรมที่ได้ร่วมมือกับ Tmall.com ในการเปิดช้อปขายสินค้าข้าวไทยใน Tmall.com ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อเปิดโอกาสให้ได้ผู้ประกอบการ ผู้นำเข้าได้เจรจาธุรกิจการค้าระหว่างกัน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศก็จะคัดเลือกผู้ประกอบการ ผู้นำเข้าที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมาเปิดเจรจาซื้อขายกัน

นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงประเด็นที่อาลีบาบาจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ และศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้าเพื่อการส่งออก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อโลจิสติกส์ไทย และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 นั้น ตามหลักการได้มีการยกเว้นให้เฉพาะที่ได้รับอนุญาตประกอบได้ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเท่านั้น และไม่เป็นการจำกัดการแข่งขันธุรกิจคนไทยยังคงสามารถดำเนินการได้

“อาลีบาบาเข้ามาลงทุนระบบโลจิสติกส์ และศูนย์กระจายสินค้าเพื่อส่งต่อไปให้กับผู้บริโภคในประเทศจีน ทั้งได้เข้ามาอบรมให้ความรู้กับบุคคลากรไทยในด้านนี้อีกด้วย ถือเป็นเรื่องดีที่จะทำให้ธุรกิจลอจิสติกส์ไทยได้รับการพัฒนาปรับปรถุงให้มีคุณภาพที่ดีต่อไป ”

พร้อมกันนี้ นายสนธิรัตน์ เตรียมจับมือร่วมกับแพลตฟอร์มระดับโลก ทั้งอเมซอน อีเบย์ ตลาดสหรัฐ แพลตฟอร์มในตลาดแอฟริกา เอเชียด้วยซึ่งเป็นการประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซรูปแบบการค้า การส่งออกรูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะทำเช่นเดียวกันกับอาลีบาบา เพื่อรุกตลาดจีนในการทำการค้า การส่งออกและเป็นการเปิดโอกาสการค้าให้เอสเอ็มอี พร้อมกันนี้ จะผลักดันให้เว็บไซต์ไทยเทรดดอทคอม กลายเป็นเว็บไซต์ของประเทศระดับโลกที่จะช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการในการส่งออก ทำการค้าให้ได้เพื่อเป็นช่องกานหนึ่งให้กับผู้ประกอบการ