พาณิชย์ตรวจเข้มนำเข้ากระเทียม-หอมหัวใหญ่ ป้องกันของเถื่อนเข้าไทย

กระเทียม-หอมหัวใหญ่

กรมการค้าภายใน ตรวจสอบเข้มการนำเข้ากระเทียมและหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ป้องกันการลักลอบสินค้าเถื่อนเข้าประเทศ กระทบราคา

วันที่ 2 มีนาคม 2567 นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมศุลกากร การท่าเรือแห่งประเทศไทย ตำรวจทางหลวง กรมทางหลวง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองในพื้นที่ เฝ้าติดตามตรวจสอบการลักลอบนำเข้าและการขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยเฉพาะกระเทียมและหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศรอบ

ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ผลผลิตกระเทียม หอมแดง และหอมหัวใหญ่ของไทยออกสู่ตลาด อาจจะกระทบต่อราคาผลผลิตของเกษตรกรและทำให้ผลผลิตราคาตกต่ำ โดยมุ่งเน้นตรวจสอบพื้นที่ต้นทางการนำเข้าและเขตผ่านแดนซึ่งเป็นจุดผ่านการขนย้ายสินค้าที่สำคัญ

อาทิ ด่านศุลกากรวังประจัน จังหวัดสตูล ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ ด่านศุลกากรสะเดา จังหวัดสงขลา ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีและเส้นทางต่าง ๆ ทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรองที่คาดว่าจะขนย้ายสินค้าเกษตร รวมถึงตรวจสอบปลายทางการขนย้ายในแหล่งรวบรวมผลผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญทุกพื้นที่

จากการนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน ร่วมกับเจ้าหน้าที่นายตรวจกองชั่งตวงวัด เฝ้าสังเกตการณ์และตั้งด่านตรวจสอบบริเวณพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นต้นทางการนำเข้าและขนย้ายสินค้าเกษตรที่สำคัญ รวมทั้งตรวจสอบผู้นำเข้า ห้องเย็นสถานที่จัดเก็บสินค้าเกษตร และผู้ค้าส่ง-ค้าปลีก เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณสินค้า บริเวณตลาดไท จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมและกระจายสินค้าขนาดใหญ่ พบว่าผู้ขนย้ายสินค้าเกษตรให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้ประกอบการมีการจัดทำบัญชีรับฝากสินค้าและแจ้งปริมาณครอบครองถูกต้องตามบัญชี

การดำเนินการตรวจสอบดังกล่าวเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตสินค้าเกษตรตกต่ำและรักษาความเป็นธรรมทางการค้าอีกแนวทางหนึ่งของกรมการค้าภายใน และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเข้มงวดตรวจสอบลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร ประสานข้อมูลและสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบการนำเข้าและการขนย้ายสินค้าเกษตร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการตรวจสอบสินค้าเกษตรมากยิ่งขึ้น

ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีไม่แจ้งข้อมูลตามข้อกำหนดของกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542

ทั้งนี้ หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการเอาเปรียบเกษตรกร สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ