กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมแจ้งความ “เบาด์แอนด์บียอนด์” ต้นตอปัญหากากแคดเมียมสัปดาห์นี้

กระทรวงอุตสาหกรรม รวบรวมข้อมูลเตรียมแจ้ง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เอาผิด “เบาด์ แอนด์ บียอนด์” ต้นทาง “กากแคดเมียม” ภายในสัปดาห์นี้ เผยเส้นทางขนย้ายผ่าน 5 จังหวัดตลอดสายเอเชีย ด้าน “พิมพ์ภัทรา” ลงพื้นที่ “เจ แอนด์ บี เมททอล” จ.สมุทรสาคร วันนี้ (29 เม.ย. 2567) คุมหน้างานก่อนขนย้ายจริงกลับ จ.ตาก ค่ำนี้

วันที่ 29 เมษายน 2567 นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภายในสัปดาห์นี้ (ช่วงระหว่างวันที่ 29 เม.ย.-3 พ.ค. 2567) กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมดำเนินการแจ้งความต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เพื่อเอาผิด บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทต้นทางในการเก็บกากแร่แคดเมียมที่ จ.ตาก จากนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม จะให้รายละเอียดถึงข้อหาที่ชัดเจนเนื่องจากการให้ข้อมูลก่อนจะมีผลต่อรูปคดี

สำหรับการทดลองระบบขนแคดเมียมขึ้นรถเมื่อบ่ายวานนี้ (28 เม.ย. 2567) ซึ่งมีการกำกับดูโดยทีมกระทรวงอุตสาหกรรม และผู้แทน 6 หน่วย รวมถึงสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ นับว่าเป็นไปด้วยดีตามแผน ส่วนการเตรียมพื้นที่โรงพักคอยกากแคดเมียมที่ จ.ตาก สส.ในพื้นที่ และผู้แทนชุมชน ขอให้มีการปรับปรุงบริเวณพื้นในโรงเก็บแร่โดยการบดอัดเพิ่มเติม

ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการตั้งแต่เมื่อวานคาดว่าจะเสร็จวันนี้ (29 เม.ย. 2567) ทันการขนย้ายกากแคดเมียมลอตแรก และในวันนี้ (29 เม.ย. 2567) จึงจะทำการขนล็อตทดลองลอตแรกทั้ง 2 จุดคือ กทม. และ จ.สมุทรสาคร ต่อจนครบจำนวนตามกรรมวิธีเดียวกับการซ้อมวานก่อน

“เรากำลังจะไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน แต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่าจะแจ้งความในข้อหาอะไร เพราะเป็นเรื่องของรูปคดี และต้องดูว่าข้อหานั้นไปเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.ใดบ้าง เมื่อแจ้งความกับพนักงานสอบสวนแล้ว ทางกระทรวงอุตสาหกรรมโดยฝ่ายกฎหมายจะชี้แจงรายละเอียดและเปิดเผยข้อมูลได้ ส่วนการแจ้งความบริษัทรายอื่น ๆ ที่มีการรับกากแคดเมียมมากำจัดนั้น คาดว่าทางอุตสาหกรรมจังหวัดได้ดำเนินการไว้แล้ว”

Advertisment

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เปิดเผยถึงขั้นตอนการขนย้ายกากแคดเมียม โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดเป็นสำคัญ โดยมีการใช้รถบรรทุก 2 ประเภท คือ รถพ่วง-คอก และรถเทรลเลอร์-ท้ายเรียบ ที่ได้รับอนุญาตขนส่งวัตถุอันตราย (วอ.8) บรรทุกจำนวน 20 ถุงต่อคัน รวมแล้วจะทำการขนย้าย 450 ตันต่อวัน

มีการใช้ระบบติดตาม GPS และระบบติดตามขนย้ายกากแคดเมียมเฉพาะกิจ (Special e-Manifest System) ปิดคลุมรถด้วยแผ่นพลาสติกกันน้ำอย่างมิดชิด และให้พนักงานสวมชุดป้องกันและเปลี่ยนชุดป้องกันทุกวัน พร้อมทั้งกำจัดชุดที่ใช้แล้วโดยการฝังกลบด้วยเช่นกัน

ขณะที่ เส้นทางการขนย้ายจะใช้เส้นทางสายเอเชีย ซึ่งหากดูตามแผนที่จะผ่านทั้งหมด 5 จังหวัด โดยเริ่มที่ทางหลวงหมายเลข 32 ที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา มุ่งสู่ จ.สิงห์บุรี จ.ชัยนาท เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1 ไปยัง จ.นครสวรรค์ จ.กำแพงเพชร และไปสิ้นสุดเส้นทางที่ จ.ตาก โดยจะมีตำรวจทางของแต่ละพื้นที่นำขบวน และมีการส่งต่อเป็นจังหวัด ๆ โดยจะหยุดพักเท่าที่จำเป็น ไม่มีการแวะเติมน้ำมัน และมีแผนฉุกเฉินกรณีเกิดอุบัติเหตุไว้เรียบร้อยแล้ว

เมื่อถึงจังหวัดตาก จะนำกากตะกอนแคดเมียมไปเก็บไว้ที่อาคารพักคอย ในพื้นที่โรงงานที่ได้ทำการปูพื้นด้วยดินเหนียวสังเคราะห์ (GCL) ส่วนบ่อเก็บกากแคดเมียมอยู่ระหว่างเร่งปรับปรุงให้มั่นคงปลอดภัยตามมาตรการ EIA โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมตาก และจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมอย่างใกล้ชิด ตลอดการดำเนินงาน

Advertisment

และในบ่ายวันนี้ (13.00 น.) นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะทำการลงพื้นที่ตรวจสอบกระบวนการขนย้ายกากแคดเมียม ณ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด จ.สมุทรสาคร ก่อนที่จะมีการขนย้ายจริงในช่วงค่ำ