ซีพี จับมือทรู พัฒนาแอปฯ”ช่วยปลูก”ส่งเสริมเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์

ซีพี จับมือทรู พัฒนาแอปฯ “ช่วยปลูก” ส่งเสริมเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ นำร่องใช้ในโครงการเกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืนในรูปแบบ จ.นครราชสีมา

นายวรพจน์ สุรัตวิศิษฏ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้จัดหาวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์แก่บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับทรู คอร์ปอเรชั่น พัฒนาแอปพลิเคชั่น “ช่วยปลูก” ขึ้น ให้เป็นเครื่องมือช่วยเกษตรกรเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากการเข้าถึงข้อมูลและความรู้ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยจะนำร่องทดลองใช้กับเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เข้าร่วมโครงการเกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืนในรูปแบบ “บัลลังก์โมเดล” อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา เป็นที่แรก เพื่อร่วมปรับปรุงและพัฒนาแอปพลิเคชั่นให้สมบูรณ์ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรมากที่สุด โดยตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในไตรมาส 4 ของปีนี้

ทั้งนี้แอปพลิเคชั่น “ช่วยปลูก” จะช่วยอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปลูกข้าวโพดตลอดกระบวนการ ตั้งแต่ “ช่วยคิด” วางแผนการปลูก การจัดการต่างๆ การจัดหาวัตถุดิบและเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิต “ช่วยทำ” จะแจ้งเตือนการวางแผนการปลูก การใส่ปุ๋ย การเก็บเกี่ยว และ “ช่วยขาย” มีข้อมูลราคารับซื้อข้าวโพดหน้าโรงงานในแต่ละวัน ช่วยให้เกษตรกรสามารถตัดสินใจและดำเนินการได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ผลผลิตเพิ่มขึ้น และได้ราคาขายที่ดี

“แอปพลิเคชั่น “ช่วยปลูก” เปรียบเสมือนคู่คิดที่ปรึกษาด้านการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ครบวงจร ให้กับเกษตรกร สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ นำไปสู่การตัดสินใจถูกต้อง และมีระบบปฏิทินเตือนการทำงานในเวลาที่เหมาะสม ช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มคุณภาพสินค้า และได้ราคาขายดีขึ้น” นายวรพจน์กล่าว

ร้อยตรีฐนนท์ธรณ์ กวีกิจรัตนา นายกเทศมนตรีตำบลบัลลังก์ กล่าวว่า จากผลสำเร็จจากโครงการ “บัลลังก์โมเดล” ที่ดำเนินการมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูล กษตรกรทุกคนใช้สมาร์ทโฟนกันอยู่แล้ว แอปพลิเคชั่นจะช่วยให้เกษตรกรทุกคนสามารถเข้าถึงความรู้ ในการปลูกข้าวโพดในเวลาที่เหมาะสม ลดการใช้ปุ๋ยหรือสิ่งที่ไม่จำเป็นกับการปลูกได้ เกษตรกรสามารถตรวจสอบราคารับซื้อข้าวโพดได้ทุกวัน และยังจะช่วยสนับสนุน การบริหารจัดการกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ได้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ การจัดสรรเครื่องจักรและรถเก็บเกี่ยวภายในกลุ่มได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น

“การนำแอปพลิเคชั่นช่วยปลูกมาใช้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรในตำบลบัลลังก์ มีความทันสมัยมากขึ้น สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และเท่าเทียมกัน ช่วยสนับสนุนให้การรวมกลุ่มของเกษตรกรมีความเข้มแข็งขึ้น มองว่า ฤดูกาลนี้ผลผลิตของบัลลังก์น่าจะดีขึ้น ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับทั้งตัวเกษตรกรและอาชีพ” นายกเทศมนตรีตำบลบัลลังก์กล่าว