แห่ใช้สิทธิ FTA-GSP ครึ่งปีแรกทะลุ 36,000 ล้าน

คอลัมน์ DATA

 

กรมการค้าต่างประเทศ รายงานการใช้สิทธิประโยชน์ในการลดภาษีภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ในช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2561) มูลค่า 36,435.38 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 73.72% จากการส่งออก ขยายตัว 18.66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) 34,192.94 ล้านเหรียญสหรัฐ และการใช้สิทธิ GSP 2,242.44 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับการใช้สิทธิ FTA 34,192.94 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น คิดเป็น 75.15% ของมูลค่าการส่งออกรวมความตกลงเอฟทีเอทั้งหมด เพิ่มขึ้น 20.05% โดยเอฟทีเอที่มีการใช้สิทธิสูงสุด ได้แก่ เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) คิดเป็น 93.98% อาเซียน-จีน คิดเป็น 89.11% และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น คิดเป็น 88.43% ส่วนสินค้าที่ส่งออกสูงสุด ได้แก่ รถยนต์บรรทุก รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติน้ำตาลจากอ้อย และเครื่องปรับอากาศ

การใช้สิทธิประโยชน์ GSP ในช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2561) มูลค่าการใช้สิทธิ GSP อยู่ที่ 2,242.44 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 57.15% ของมูลค่าการส่งออกภายใต้สิทธิ GSP รวม 3,923.58 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยกว่า 90% เป็นการใช้สิทธิ GSP ไปยังสหรัฐ คิดเป็นมูลค่า 2,091.32 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 68.16% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าได้สิทธิ GSP จากสหรัฐซึ่งมีมูลค่า 3,068.34 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าที่มีการใช้สิทธิ GSP สูงสุด ได้แก่ ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ เครื่องดื่มอื่น ๆ ถุงมือยาง อาหารปรุงแต่ง และรถจักรยานยนต์

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กรมเตรียมเพิ่มเป้าหมายการขยายตัวของมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์จาก 9% เป็น 10% เนื่องจากมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการขยายตัวของการส่งออกเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจโลก ประกอบกับการปรับปรุงบริการเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้ามากยิ่งขึ้น