เศรษฐกิจในประเทศ

“สนธิรัตน์” คาดสินค้าแฟชั่น-ไลฟ์สไตล์เติบโตไม่ต่ำกว่า5%ในปีนี้ ตั้งเป้างานแสดงสินค้าสไตล์แบงค็อกเงินสะพัด 2,500 ล.บาท

สนธิรัตน์ เผย คาดสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% ในปีนี้ พร้อมตั้งเป้างานแสดงสินค้าสไตล์แบงค็อก จะมีเม็ดเงินสะพัดภายในงานกว่า 2,500 ล้านบาท

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ โดยในปีนี้คาดว่าจะสามารถส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ได้กว่า 12,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 5% จากในปี 2560 ที่ส่งออกได้ 12,093 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 399,083 ล้านบาท และมีโอกาสเติบโตอีกมาก ส่วนสงครามการค้าสหรัฐและจีน ยืนยันไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้ไม่โดนมาตรการกีดกันทางการค้า ดังนั้นไทยต้องใช้โอกาสนี้เร่งสร้างความเข้มแข็ง เพื่อผลักดันตัวเลขส่งออกต่อไป โดยในปีหน้าก็คาดว่าจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 5% เช่นกัน ซึ่งหากทุกภาคส่วนช่วยกันเร่งรัดหาตลาดส่งออกก็อาจจะเติบโตได้มากกว่า 5 %เพราะปัจจุบันไทยได้รับการยอมรับมากขึ้นในตลาดโลก

ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ให้ได้ตามเป้าหมาย งานแสดงสินค้า STYLE Bangkok (สไตล์ แบงค็อก) ที่จัดขึ้นโดยรวบรวม 3 งานแสดงสินค้าใหญ่ระดับนานาชาติไว้ด้วยกัน คือ งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง , งานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน และงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ เพื่อตอบสนองความต้องการเลือกซื้อสินค้าที่หลากหลาย และตอบโจทย์นโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น Local to Global ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยสู่สากล โดยเฉพาะกลุ่มฐานราก ซึ่งครั้งนี้มีผู้ประกอบการจากต่างจังหวัดเข้าร่วมงานกว่า 400 ราย จากผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศรวมกว่า 1,000 ราย ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายเล็กได้แสดงฝีมือการผลิตสินค้าที่ประณีต โดยใช้วัสดุท้องถิ่น จนเกิดเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสู่สายตาผู้ซื้อจากต่างประเทศ และยังตอบโจทย์การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ Creative Economy

โดยงานนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 50,000 ราย จาก 80 ประเทศทั่วโลก และมีเม็ดเงินสะพัดภายในงานจากการเจรจาธุรกิจและการจำหน่ายกว่า 2,500 ล้านบาท โดยกรมได้เชิญผู้ซื้อจากต่างประเทศทั่วโลกมาชมงาน อาทิ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เยอรมนี สหราชอาณาจักร และกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมุ่งเป้าไปยังทุกกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น และเจาะลึกเป็นพิเศษในกลุ่มธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนบริษัทสถาปนิกและตกแต่งภายใน เพื่อขยายฐานของผู้ซื้อและผู้ชมงานให้มากยิ่งขึ้น

สำหรับงานแสดงสินค้าสไตล์แบงค็อกจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 21 ตุลาคม โดยเปิดให้เจรจาธุรกิจวันที่ 17 – 19 ตุลาคม และเปิดจำหน่ายทั่วไปวันที่ 20 – 21 ตุลาคม ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา

นอกจากนี้ ยังมีแผน Creative Economy” ที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการการค้าสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ในภูมิภาค เนื่องจากสินค้าไลฟ์สไตล์ เป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่มีศักยภาพของไทยคิดเป็นสัดส่วน 5.1% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดกอปรกับผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็น SMEs ซึ่งเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 97 % ของจำนวนวิสาหกิจทั้งประเทศ และภาครัฐให้ความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนา กรมฯ จึงมีแผนงานส่งเสริมการส่งออกของผู้ประกอบการกลุ่มไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง

“หลังจากที่รัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมเรื่อง “Creative Economy” ซึ่งผู้ประกอบการไทยได้รับการส่งเสริมและช่วยขยายตลาด ตลอดจนพัฒนาและเพิ่มศักยภาพให้แก่สินค้าและธุรกิจบริการของไทย โดย ประเทศไทยของเรานั้นมีความหลากหลายทางศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งผู้ประกอบการสินค้าไลฟ์สไตล์และกลุ่ม Start-up ไทยจำนวนไม่น้อย สามารถนำความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ๆ ไปต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ไทยที่มีความโดดเด่นทั้งทางด้านดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งาน ทำให้สินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ของไทยเป็นที่ต้องการและรู้จักทั่วโลก กรมฯ จึงมั่นใจว่ามูลค่าการส่งออกของกลุ่มสินค้ากลุ่มนี้จะมีมูลค่ากว่า 12.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีนี้ขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า”