“อุตตม” มอบนโยบาย EEC กำหนด 6 แผนดำเนินงานในปี 62 ตั้งเป้าดึงการลงทุนจากในพื้นที่ EEC จาก 11 อุตสาหกรรม (S-Curve) แตะ 100,000 ล้านบาท รวมกับ BOI คาดจะเห็นเม็ดเงินสูงถึง 300,000 ล้านบาท เตรียมประชุม คณะกรรมการเฉพาะกิจฯ พรุ่งนี้ (1 พ.ย.) รับทราบความคืบหน้า พร้อมเสนอให้บิ๊กตู่ในที่ประชุม บอร์ด EEC วันที่ 12 พ.ย.นี้
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในโอกาสตรวจเยี่ยมสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) แห่งใหม่ซึ่งตั้งอยู่ที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT Tower ซึ่งได้มอบนโยบายและกำหนดแผนงานปี 2562 ประกอบด้วย 1.แผนสนับสนุนส่งเสริมการลงทุนใน 11 อุตสาหกรรม (S-Curve) ซึ่งจะกำหนดและวางเป้าหมายให้ชัดเจน โดยเฉาพะอุตสาหกรรมหลักเกษตร คาดว่าจะก่อให้เกิดการลงทุนไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท 2.แผนจัดกิจกรรมชักจูงนักลงทุน หรือโรดโชว์ ที่เน้นรายใหญ่ก่อนเพื่อก่อให้เกิดการลงทุนแบบกลุ่มอุตสาหกรรม (คลัสเตอร์) ตามมา คาดจะกลับไปรีวิวโรดโชว์อีกครั้งที่ฝรั่งเศส หลังจากที่ลงนามกับทางแอร์บัสเพื่อดำเนินงานส่วนของศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO)
- กรุงไทย เตือนลูกค้าอัพเดต Android เวอร์ชั่นล่าสุด ก่อนใช้แอปไม่ได้
- มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล เปิดชื่อผู้ถือหุ้น-ผลประกอบการ
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่โดดเด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์
3.แผนการใช้พื้นที่ในอีอีซี ที่ต้องจัดทำสีผังเมืองให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน จากเดิมตามกฎหมายกำหนดต้องให้เสร็จใน 1 ปี เพื่อที่นักลงทุนจะรู้ว่าพื้นที่ใดสามารถลงทุนได้ 4. แผนงานการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม โดยทางที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เริ่มจัดทำแผนดังกล่าวแล้วซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
5.แผนส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาและเพิ่มศักยภาพคน โดยเฉพาะโครงการ Inno Space Cyberport Thailand เพื่อสร้างสตาร์จอัพด้านเทคโนโลยี 6.แผนประชาสัมพันธ์ โครงการอีอีซี ที่มุ่งเน้นการให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับรู้โครงการถึงการสร้างประโยชน์ต่างๆ ในประเทศที่ให้เข้มข้นมากขึ้น
โดยแผนงานทั้งหมดจะหารือเพื่อรับฟังความคิดเห็นจาก คณะกรรมการบริหารเฉพาะกิจเพื่อบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 1 พ.ย. นี้ซึ่งตนเป็นประธาน จากนั้นจะนำเสนอให้กับ คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อเห็นชอบในวันที่ 12 พ.ย.ต่อไป
“2 ปีที่เราทำงานร่วมกันมานับว่าคืบหน้าไปมาก และค่อนข้างเดินหน้าไปตามแผนเป็นระยะๆ โดยเฉพาะแผนงานใหญ่ทั้งหมด จนเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2561 ที่ประชุม ครม. ได้มีมติอนุมัติการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ 4 โครงการตามที่บอร์ด EEC เสนอ เราจึงมากำหนดแผนงานและเป้าให้ EEC สำหรับปี 2562”
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า แผนลงทุนในพื้นที่ปี 2562 ตั้งเป้าว่าจะไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอโอ) คาดว่าการลงทุนจะไปถึง 300,000 ล้านบาท สำหรับแผนโรดโชว์เพื่อดึงการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ เซี่ยงไฮ้ หางโจว ประเทศจีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอังกฤษ เป็นต้น
“เป้าหมาย 100,000 ล้านบาทที่เราตั้งไว้ก็คือส่วนหนึ่งของตัวเลขที่บีโอไอทำไว้ เมื่อมารวมกันมันก็คือผลงานที่เราดึงมาลงทุนใน EEC แต่ส่วนของเราจะเน้นหนักไปที่บริษัทใหญ่ๆ ที่ต้องใช้เวลาและรายละเอียดในการเจรจา อย่าง อาลีบาบา เป็นต้น”
สำหรับ TOR อีก 4 โครงการที่เหลือ คือ 1.โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานสนามบินอู่ตะเภา (MRO) 2. โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก 3.โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และ 4.โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จะเริ่มชักชวนนักลงทุนในเดือน พ.ย. หรือสัปดาห์หน้า
ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งเปิดขายซองไปแล้ว ได้ครบกำหนดรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อวันที่ 30 ต.ค.2561 ที่ผ่านมา และจะครบกำหนดยื่นซองข้อเสนอในวันที่ 12 พ.ย.นี้ คาดว่าจะมีผู้ยื่นซองแน่นอน
