อุตสาหกรรมยาคึกคักในงาน CPhI South East Asia 2019 ผู้เข้าชมงาน 6,000 คน กว่า 300 บูธ มั่นใจในอีก 1-2 ปีไทยขึ้นแท่นเป็น Medical Hub ในอาเซียนตามเป้าหมาย New S-curve ด้านเอกชนห่วงสิทธิบัตรยาที่ต่างชาติขอเพิ่มเป็น 25 ปี หวังรัฐช่วยเจรจา FAT ภายใต้ CPTPP เพื่อไทยจะได้พัฒนานำนวัตกรรมผลิตยาได้เอง ลดการนำเข้า
นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงาน CPhI South East Asia 2019 จัดโดย บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ว่าอุตสาหกรรมยาของไทย นับว่าเดินมาครึ่งทางแล้ว แต่ยังต้องใช้เรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุน เพื่อจะได้เร่งผลักดันให้ไทยไปสู่ การเป็น Medical Hub ของอาเซียนให้ได้ตามแผน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
“ยอมรับว่าปัญหาการขึ้นทะเบียนยาก็ยังคงมีอยู่ แต่รัฐเองไม่ได้นิ่งนอนใจ และยังช่วยกันหาช่องทางอำนวยความสะดวก แต่ด้วยยาบางประเภทมีความพิเศษจึงต้องใช้เวลามาก”
นายเชิญพร เต็งอำนวย รองประธานสภา อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานกลุ่มยา ส.อ.ท.กล่าวว่า เอกชนยังคงมีความเป็นห่วงว่า ต่างชาติได้ขอให้มีการขยายสิทธิบัตรยา เป็น 25 ปี จากเดิมมีอายุ 20 ปีเท่านั้น โดยหวังการเจรจาการค้าเสรี (FTA) ในความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) จะมีโอกาสที่จะตกลงกันในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้มีการขยายอายุสิทธิบัตรยา เพราะจะส่งผลให้ไทยติดกับดักยังต้องนำเข้ายา และไม่สามารถพัฒนายาขึ้นเองได้ แม้ว่าขณะนี้ไทยจะสามารถผลิตยาได้เองแล้วก็ตาม