กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือ แกร็บ เพิ่มช่องทางสั่งอาหารร้านอาหาร Thai SELECT นำร่อง 101 ร้านและร้านอาหารในกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ นำร่อง 22 ร้าน ผ่าน แกร็บฟู้ด หวังยกระดับศักยภาพการให้บริการ และเพิ่มช่องทางรายได้และการเข้าถึงลูกค้า อีกทั้งเพิ่มความสะดวกสบายของบริการส่งอาหารให้กับผู้บริโภคไทยและต่างชาติ
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และแกร็บ ประเทศไทย ร่วมกันลงนามความร่วมมือ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนประชาสัมพันธ์ร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT และร้านอาหารในกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ให้เป็นที่รู้จัก โดยอาศัยช่องทางดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงจากผู้บริโภคทั่วโลกผ่านบริการ แกร็บฟู้ด บนแอปพลิเคชัน แกร็บ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจและเพิ่มรายได้อย่างกว้างขวาง และเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดมากขึ้น นำร่องร้าน Thai SELECT 101 ร้าน และธุรกิจแฟรนไชส์ 22 ร้าน
อย่างไรก็ดี ความร่วมมือดังกล่าว เพราะกรมฯเล็งเห็นถึงความสำคัญและต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารให้มีโอกาสในการขยายตลาดจากรูปแบบปกติเข้าสู่ระบบออนไลน์มากขึ้น ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและเทคโนโลยี อีกทั้งการขนส่งหรือสั่งอาหารจากบริการผ่านแพลิเคชั่นมีมากขึ้น ทำให้ธุรกิจการส่งอาหารมีการเติบโตเป็นอย่างมาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่กรมฯต้องการผลักดันการให้บริการดังกล่าว ปัจจุบัน ร้าน Thai SELECT ในประเทศไทยมีทั้งสิ้น 672 ร้านค้า และอนาคตกรมฯจะพยายามส่งเสริม สนับสนุนร้านดังกล่าวเพิ่มเติมต่อไป
นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ แกร็บ มีเป้าหมายในการยกระดับการบริหารจัดการและการบริการของร้านอาหาร Thai SELECT และร้านอาหารในกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ผ่านการใช้เทคโนโลยีของแกร็บ ที่จะตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการ ผู้บริโภค และนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาบริการจัดส่งอาหารที่รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้นผ่านการสั่งอาหารแบบออนดีมานด์ การขยายช่องทางการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ ๆ รวมถึงการเพิ่มตัวเลือกร้านอาหารที่หลากหลายและน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภค
“แกร็บ เป็นบริการที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ถึง 48 ภาษา ดังนั้นการให้บริการครั้งนี้ นอกจากคนไทยนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็สามารถใช้บริการได้ ซึ่งสัดส่วนของนักท่องเที่ยวเพิ่มที่ใช้บริการนั้นประมาณ 20% และส่วนใหญ่เป็นคนไทย แต่นักท่องเที่ยวจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลท่องเที่ยวของไทยซึ่งก็จะเพิ่มขึ้นได้ และช่องทางดังกล่าวจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงและสะดวกสบาย และค่าบริการ คิดเริ่มต้นที่ 10 บาทซึ่งก็จะคิดตามระยะทาง นอกจากนี้ ก็มีโปรชั่นส่วนลดให้กับลูกค้าด้วย”
ทั้งนี้ ยอดคำสั่งซื้ออาหารผ่านบริการของ แกร็บ (Grab) ปี 2561 ประมาณ 3 ล้านคำสั่งซื้อ สำหรับปี 2562 ประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา คำสั่งซื้ออาหารประมาณ 4 ล้านคำสั่งซื้อ แสดงถึงการเติบโตการใช้บริการแบบก้าวกระโดด และในปีนี้ตั้งเป้า 20 ล้านคำสั่งซื้อ ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ ตามการขยายจุดให้บริการของ แกร็บที่จะขยายจากเดิมซึ่งมีพียง กรุงเทพ และเชียงใหม่ ภายในไตรมาส 2 นี้ ตั้งเป้าขยายจุดให้บริการอีก 4 จุด ได้แก่ ขอนแก่น นครราชสีมา หาดใหญ่ และพัทยา ซึ่งจะทำให้แกร็บมีจุดให้บริการทั้งสิ้น 6 จุด
อย่างไรก็ดี ความร่วมมือที่เกิดขึ้น แกร็บร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐที่ต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสและรายได้ให้กับผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบัน แอปพลิเคชันแกร็บได้ถูกดาวน์โหลดบนโทรศัพท์มือถือมากกว่า 144 ล้านเครื่อง ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ ร้านค้า และผู้แทนกว่า 9 ล้านราย แกร็บยังมีเครือข่ายการให้บริการขนส่งทางบกที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดยได้ให้บริการการเดินทางไปมากกว่า 3 พันล้านเที่ยวตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ในปี 2555 นอกจากนี้ แกร็บยังนำเสนอบริการการเดินทางแบบออนดีมานด์ที่หลากหลายที่สุดในภูมิภาค และครอบคลุมบริการรับส่งอาหารและจัดส่งพัสดุสินค้า ทั่วทั้ง 336 เมืองใน 8 ประเทศ