2เดือน “โซลาร์ประชาชน” อืด คืนทุนช้านิติบุคคลร่วมน้อย

2 เดือนโซลาร์ประชาชนได้ผู้สมัคร 2,000 ราย แห่ติดตั้ง 1.1 หมื่นกิโลวัตต์ “นิติบุคคลยังน้อยกว่าประชาชน” กฟน.-กฟภ.เดินหน้ารับสมัครต่อถึงสิ้นปี 

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ผ่านมาครบ 2 เดือนหลังจากเปิดตัวโครงการโซลาร์ภาคประชาชน โดยนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงข่าวร่วมกับประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ผู้แทน 2 การไฟฟ้า คือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ไป

ได้เริ่มเปิดรับสมัครประชาชนผู้สนใจที่จะเข้าร่วมโครงการ นับตั้งแต่ 24 พฤษภาคม 2562 กระทั่งถึงวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 สถานะการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการโซลาร์ภาคประชาชน รวม 2,244 ราย คิดเป็น 11,237 กิโลวัตต์ (kWp)

โดยแบ่งเป็นในส่วนของ กฟน. มีผู้สมัคร 411 ราย รวม 2,072 kWp แบ่งเป็น บุคคลธรรมดา 384 ราย 1,952 kWp และนิติบุคคล 27 ราย 120 kWp และ กฟภ. 1,833 ราย รวม 9,165 kWp แบ่งเป็น บุคคลธรรมดา 1,734 ราย 8,670 kWp และนิติบุคคล 99 ราย 495 kWp ซึ่งยังคงเหลืออีกจำนวนมากกว่าจะครบตามเป้าหมายในปีแรก 100 เมกะวัตต์ (MW) แบ่งเป็นจำนวน 30 เมกะวัตต์ในส่วนของ กฟน. และ 70 เมกะวัตต์ในส่วน กฟภ.

ทั้งนี้ กกพ.ได้ออกประกาศหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิในการยื่นสมัครเข้าโครงการนี้ว่า จะมุ่งเน้นสนับสนุนให้ประชาชนผู้ใช้พลังงาน ประเภทครัวเรือนขนาดเล็ก (ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1) ได้ติดตั้งอุปกรณ์แผงเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง และนำส่วนเกิน

ที่เหลือจากการใช้ไปขายต่อให้กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (กฟน.และ กฟภ.) โดยมีกำลังผลิตติดตั้งครัวเรือนละไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ (kWp) กำหนดอัตราราคารับซื้อไฟฟ้าที่ 1.68 บาทต่อหน่วย มีระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 10 ปี ซึ่งโครงการในปี 2562 จะกระจายครอบคลุม 10,000-20,000 ครัวเรือน โดยเปิดให้ยื่นสมัครจนถึงสิ้นปี 2562

สำหรับผลประโยชน์ที่ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะประหยัดค่าไฟ 3.80 บาทต่อหน่วย แต่หากตั้งใจจะติดตั้งเพื่อขายไฟเข้าระบบเพียงอย่างเดียวจะมีราคารับซื้อ 1.68 บาทต่อหน่วย

โดยเบื้องต้นครัวเรือนที่ติดตั้งต้องลงทุนซื้อชุดอุปกรณ์โซลาร์รูฟท็อปขนาด 8 กิโลวัตต์จะมีค่าแผงเซลล์และระบบ ประมาณ 240,000 บาท (กิโลวัตต์ละ 30,000 บาท) และค่าใช้จ่ายเปลี่ยนดิจิทัลมิเตอร์ 8,500 บาท ผลิตไฟฟ้าได้ 11,912 หน่วยต่อปี

หากผลิตเพื่อขายเข้าระบบการไฟฟ้าอย่างเดียวไม่ใช้ไฟฟ้าช่วงเวลากลางวัน จะมีรายได้ขายไฟประมาณ 20,012 บาทต่อปี เท่ากับจะคืนทุนใน 12 ปี แต่หากบ้านมีการใช้ไฟฟ้าเองทั้ง 100% ในช่วงกลางวันจะใช้เวลาคืนทุน 6 ปี แต่หากผลิตใช้เอง 50% และขายส่วนเกินเข้าระบบ 50% จะคืนทุนประมาณ 7.5 ปี