กบง.ไฟเขียวไทยฮับ LNG

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา พิจารณารับทราบผลศึกษาแนวทางการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อ-ขาย LNG ภูมิภาค เนื่องจากไทยมีความต้องการนำเข้าประมาณ 5 ล้านตันต่อปี ทั้งยังตั้ง

อยู่ในศูนย์กลางภูมิภาค และมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยคาดว่าจะเริ่มทดสอบให้บริการในช่วงไตรมาสแรกปี 2563 ก่อนจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ปลายปี 2563 หรือต้นปี 2564 ซึ่งหากประสบความสำเร็จส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย 165,000 ล้านบาทในช่วง 10 ปี (2563-2573) และมีการจ้างงานในประเทศเพิ่มขึ้น 16,000 คนต่อปี ทั้งยังช่วยลดภาระการส่งผ่านอัตราค่าบริการไปยังค่าไฟฟ้าด้วย

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมรับทราบรายงานความก้าวหน้าของสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติระหว่าง ปตท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) (Global DCQ) ซึ่งเป็นสัญญาเพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ และมีความยืดหยุ่น ในการจัดหาเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติโดยเสรีที่ไม่มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้า ภายใต้แผนความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติของประเทศ ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปบางประเด็น

ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะพิจารณาเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่กระทบต่อค่าไฟฟ้า ขั้นตอนต่อไปจะเป็นกระบวนการพิจารณาจากคณะกรรมการ กฟผ. อัยการสูงสุด กบง. และนำเสนอ กพช. ซึ่งคาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายในปี 2562

นอกจากนี้ กบง.ได้มอบให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ติดตามผลการใช้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเกรดพื้นฐานและศึกษาผลกระทบต่าง ๆ เร่งศึกษาหลักเกณฑ์การคำนวณราคาไบโอดีเซลใหม่ที่เหมาะสม เพื่อเสนอ กบง.ต่อไป