99 วันเป้าหมาย หอการค้าไทย ลุยต่อผลักดันปรับปรุงกฎระเบียบทางธุรกิจ

สนั่น  อังอุบลกุล

หอการค้าไทยจัดการเสวนา หัวข้อ Connect the Dots: Ease of Doing Business เพื่อเชื่อมโยงภาครัฐ ผลักดันการปรับปรุงกฎหมายระเบียบ เพื่ออำนวยความสะดวกธุรกิจ

วันที่ 11 มิถุนายน 2564 นายสนั่น  อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการดำเนินงานของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ตามนโยบาย “Connect the Dots” ตั้งเป้าการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใน 99 วัน ว่า หอการค้าไทยมี 3 ประเด็นเร่งด่วน ซึ่งหอการค้าไทยได้ดำเนินการมาแล้วกว่า 70 วัน มีความคืบหน้าไปมาก

ประเด็นแรก การสรรหาจุดฉีดวัคซีนและการเร่งฉีดวัคซีน ประเด็นที่สอง หอการค้าไทยได้หารือร่วมกับรองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ ถึงแนวทางการผลักดันสินเชื่อ Asset Warehousing เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น และต่อจากนี้ หอการค้าไทยจะเข้าพบผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เพื่อหารือถึงมาตรการและการเยียวยาผู้ประกอบการ ตลอดจนการเสนอปรับปรุงแก้ไขกฎเกณฑ์ที่ล้าสมัย เพื่ออำนวยความสะดวกและเอื้อต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น

และประเด็นที่สาม แก้ไขกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้น จากการดำเนินงานที่ผ่านมา หอการค้าไทยร่วมกับคณะทำงานกีโยติน ยังได้ดำเนินการขับเคลื่อนเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น

นอกจากนั้นยังได้มีการหารือถึงประเด็นมาตรการสินเชื่อช่วยผู้ประกอบการ (Soft Loan) ซึ่งเป็นโครงการที่ดี และอยากเสนอเพิ่มเติมให้ภาครัฐผ่อนคลายกฎระเบียบ เพื่อให้สถาบันทางการเงินมีอิสระในการใช้ดุลพินิจมากขึ้น สถาบันทางการเงินมีกฎเกณฑ์พื้นฐานในการให้สินเชื่อโดยพิจารณาจากหลายมิติ ไม่ใช่พิจารณาจากเครดิตบูโรเพียงอย่างเดียว การที่ให้ผู้ประกอบการค้าปลีกคัดกรองและให้ข้อมูลผู้ขายแก่สถาบันทางการเงิน ก็สามารถนำมาใช้ประเมินความเสี่ยงได้ และธนาคารแห่งประเทศไทย พิจารณาปลดล็อกให้ลูกหนี้ที่ติดเครดิตบูโร หรือ NPL ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน

โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิดนี้ ยิ่งต้องมีการดูแลผ่อนผัน เพื่อให้สถานะฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว โดยหลังจากการดำเนินงานครบ 99 วัน ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ หอการค้าไทยมีแผนไปเปิดเมือง Phuket Sandbox ร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและ ททท.

“เรื่องการอำนวยความสะดวกและปรับปรุงกฎหมายนั้น ก่อนหน้านี้อาจจะทำได้ยาก เพราะมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย หลาย ๆ เรื่อง ต้องใช้เวลานานกว่าจะสามารถดำเนินการได้ ในสถานการณ์ COVID ขณะนี้ แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ทำให้ทุกคนกลับมามอง ให้มีจุดมุ่งหมายเดียวกันทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อทำให้ประเทศไทยกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งถ้าทุกภาคส่วนมีเป้าหมายร่วมกันแล้ว ก็สามารถร่วมกันดำเนินการให้สำเร็จได้ เช่นเดียวกับเรื่องการกระจายวัคซีน ที่หอการค้าไทยเข้าไปช่วยประสานกับทางกรุงเทพมหานคร โดยหอการค้าไทยพร้อมที่จะเป็นตัวเชื่อม connect the dots เพื่อให้ข้อเสนอการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้”

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพและการดำเนินธุรกิจของประชาชน กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมาได้ผลักดันการแก้ไขปัญหากฎหมายที่เป็นอุปสรรคและล้าสมัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) อาทิ การใช้เอกสารผ่านอิเล็กทรอนิกส์ Simple and Smart License ที่ทำร่วมกับสำนักงาน กพร. ผ่านระบบ Biz Portal การดำเนินโครงการลด เลิก ละ เพื่อเชิญชวนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมลดระเบียบที่ไม่จำเป็น และการประสานความร่วมมือกับส่วนราชการในการลดปัญหาอุปสรรคให้กับผู้ประกอบการ

โดยการให้รางวัลผ่านการประกวด “รางวัลเลิศรัฐ” และกล่าวถึงความคืบหน้าของ 10 for 10 ที่เอกอัครราชทูตทั้ง 5 ชาติ ได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย เยอรมนี และญี่ปุ่น ได้ร่วมกันให้ข้อเสนอแนะเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยทางคณะทำงานได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัล ยกระดับ Ease of Doing Business ให้ประเทศไทยมีอันดับที่ดีขึ้นได้ในปีนี้

นอกจากนั้นยังได้ร่วมกับหอการค้าไทย ผลักดันการแก้ไขประเด็นปัญหาที่เป็นอุปสรรคอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเป็นตัวกลาง Connect the Dots ระหว่างผู้ประกอบการและภาครัฐ เพื่อขับเคลื่อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ต่อไป อาทิ

1) ผลักดัน พ.ร.บ.โรงแรม พ.ร.บ.ผังเมือง ช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงแรม โดยการเปลี่ยนอาคารโรงแรมไปประกอบกิจการอื่น โดยขณะนี้ กรมโยธาธิการอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข พ.ร.บ.อาคาร ให้สามารถนำอาคารไปเป็นที่พักได้อย่างถูกกฎหมาย

2) การขอใบอนุญาตก่อสร้างและการต่ออายุ ให้มีการปรับลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตและสามารถต่ออายุได้ง่ายขึ้น

3) การให้ชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้นานขี้น โดยปรับหลักเกณฑ์เพื่อสร้างแรงจูงใจ

4) การให้ผู้สูงอายุต่างชาติเช่าที่พักอาศัยในประเทศไทยได้นานขึ้นด้วย