ประมง 22 จังหวัด จ่อขายเรือทิ้ง 2 หมื่นลำ ทำต่อไม่ไหวแล้ว

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กระอักพิษน้ำมันดีเซลแพงซ้ำเติมโควิด จ่อขายเรือทิ้ง 2 หมื่นลำ

นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ชาวประมงทั้ง 22 จังหวัด ได้ยืนยันขายเรือทิ้งไปแล้วจากระบบเกินกว่า 50% จากเรือที่มีทั้งระบบประมาณ 20,000 ลำ เพราะทำต่อไม่ไหวแล้ว

ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นด้วยสถานการณ์การระบาดโควิด ทำให้ต้องจอดเรือประมง หยุดการซื้อขายสัตว์น้ำ อีกทั้งที่ผ่านมาสมาคมเรียกร้องไปยังหน่วยงานรัฐ ในเรื่องการซื้อคืนเรือประมง และชดเชยเยียวยาชาวประมงก็ไม่มีความชัดเจน มีเพียงเงินกู้ แต่ชาวประมงก็เข้าไม่ถึง อีกทั้งขาดเเคลนแรงงานต่างด้าว

ที่สำคัญล่าสุดมาเจอปัญหาราคาน้ำมันมีราคาปรับสูงขึ้นมาก ยิ่งซ้ำเติมชาวประมงได้รับผลกระทบ 100% เต็ม ๆ เนื่องจากน้ำมันดีเซลเป็นปัจจัยหรือเป็นต้นทุนหลักคงที่ของเรือประมง เรือทุกลำใช้น้ำมันดีเซล

“หลายคนไปต่อไม่ไหว จอดทิ้งเรือ หรือแม้แต่ขายเรือลดราคากว่าเท่าตัวก็ไม่มีคนซื้อ ยิ่งตอนนี้ต้นทุนหลัก ๆ คือน้ำมันเเพงก็ยิ่งกระทบหนัก น้ำมันแพงขึ้น ทรัพยากรประมงก็ยิ่งน้อยลง ที่ผ่านมาเราเรียกร้องไปหลายข้อก็ไม่เคยเหลียวแล แรงงานขาดแคลนอีกจำนวนมาก ถ้าอยู่อย่างนี้คงล้มหายตายจากไปหมด ตอนนี้ที่ออกเรือจริง ๆ น่าจะมีแค่ 8,000 ลำ จาก 2 หมื่นกว่า”