SPRC เยียวยากลุ่มประมงท้องถิ่นลำละ 45,000 บาท

บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) “SPRC” ประกาศมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 45,000 บาท ต่อเรือประมงหนึ่งลำ โดยไม่มีข้อผูกพัน ให้แก่กลุ่มประมงท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่ว

วันที่ 1 มีนาคม 2565 นายโรเบิร์ต โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC กล่าวว่า บริษัทจะเริ่มดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่เจ้าของเรือประมงจำนวน 45,000 บาท ต่อเรือประมงหนึ่งลำ โดยไม่มีข้อผูกพัน ให้แก่กลุ่มประมงท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบในเกาะเสม็ด และที่ได้ทำการลงทะเบียนและได้รับสิทธิรับเงินช่วยเหลือ ณ โรงเรียนเกาะแก้วพิสดาร เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ในวันที่ 1 มีนาคม 2565

และสำหรับกลุ่มประมงท้องถิ่นส่วนที่เหลือ จะได้รับเงินช่วยเหลือตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ SPRC จะติดต่อไปยังเจ้าของเรือที่มีสิทธิในการรับเงินช่วยเหลือ เพื่อแจ้งวันและสถานที่สำหรับการเข้ามารับเงินช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ SPRC ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ในการรวบรวมคำร้องเรียนจาก กลุ่มประมงท้องถิ่น โดยทาง SPRC ได้เปิดโอกาสให้กลุ่มประมงท้องถิ่นยื่นคำร้องตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม จนถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 โดยเป้าหมายของเราคือการดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม สมเหตุสมผล และรวดเร็ว นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้ดียิ่งขึ้น

“เรามีความจริงใจในการมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว สำหรับ SPRC นั้น ความห่วงใยเป็นค่านิยมหลัก (core value) ที่เราภาคภูมิใจ เรามีความห่วงใยต่อชุมชนพี่น้องชาวระยองเป็นอย่างมาก และขอย้ำอีกครั้งว่า การมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นการให้เงินช่วยเหลือแบบไม่มีข้อผูกพันใด ๆ กับผู้รับและเป็นการมอบให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเท่าเทียมกัน”

ปัจจุบัน SPRC ได้ดำเนินการแก้ไขสถานการณ์อย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อที่จะลดผลกระทบต่อชุมชน ชายฝั่ง และสิ่งแวดล้อมทางทะเล โดยหลังจากที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 SPRC และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้เข้าควบคุมสถานการณ์ในทันที และได้ดำเนินการกำจัดคราบน้ำมันออกจากชายหาดในจังหวัดระยองได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าว ได้ดำเนินการภายใต้การปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งจากในและต่างประเทศ รวมถึงได้รับคำแนะนำจากหน่วยงานภาครัฐ อาจารย์จากมหาวิทยาลัย และผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกองค์กรที่มีความชำนาญในการรับมือกับเหตุการณ์น้ำมันรั่วเป็นอย่างดีหากมีความคืบหน้าหรือมีข้อมูลเพิ่มเติม ทางบริษัทจะรายงานให้ทราบโดยเร็ว