กรมประมง “สั่งย้าย-ตั้งสอบ” ข้าราชการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว

นายเฉลิมชัย  สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง
นายเฉลิมชัย  สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง

อธิบดีกรมประมงตั้งโต๊ะแจงกรณีพนักงานราชการ ถูกจับคาด่านตรวจประมงกาญจนบุรี เหตุใช้รถหลวงลักลอบขนแรงงานต่างด้าว เผยเจ้าตัวรับสารภาพ ทำมาแล้ว 2 ครั้ง สั่งให้พ้นออกจากการปฏิบัติหน้าที่ทันที พร้อมสั่งย้ายหัวหน้าด่าน ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอน

วันที่ 14 มีนาคม 2565 รายงานข่าวจากกรมประมง ระบุ กรณีที่ชุดปฏิบัติการข่าวที่ 2 ร่วมกับหมวดลาดตระเวนที่ 4 หน่วยเฉพาะลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ กองร้อยทหารพรานที่ 1404 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวพม่าเป็นหญิง จำนวน 3 คน พร้อมผู้นำพาเป็นชายชาวไทย จำนวน 1 คน โดยใช้รถยนต์ของส่วนราชการยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ 4 ประตู สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 6 กง 2962 กรุงเทพมหานคร ในการกระทำความผิด

เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นที่ด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยทราบว่าผู้นำพาคือ นายวุฒิวงศ์ สุขมงคล อายุ 35 ปี ปฏิบัติงานในตำแหน่งพนักงานราชการ (นักวิชาการกรมประมง) ประจำด่านตรวจประมงกาญจนบุรี สังกัดกรมประมง ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพว่าได้กระทำการดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง และถูกจับกุมในครั้งนี้

นายเฉลิมชัย  สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง จึงขอแถลงข่าวชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังจากที่ได้รับทราบรายงานข้อเท็จจริง ได้สั่งการให้พนักงานราชการผู้กระทำผิดรายดังกล่าวพ้นออกจากการปฏิบัติหน้าที่โดยทันที และสั่งย้ายหัวหน้าด่านตรวจประมงกาญจนบุรี ออกจากพื้นที่เข้ามาประจำอยู่ที่กรมประมงส่วนกลาง พร้อมเร่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนให้สิ้นสุดโดยเร็ว เพื่อดำเนินการทางวินัยกับผู้กระทำผิดและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

โดยยึดถือแนวทางการปฏิบัติตามนโยบายข้อสั่งการของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย และย้ำชัดให้หน่วยงานหากมีเจ้าหน้าที่ หรือข้าราชการส่วนใดเข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องมีการสืบสวนทั้งกระบวนการ และต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมายสูงสุด

“กรมประมงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบุคลากรทั้งในส่วนของข้าราชการพนักงานราชการ และเจ้าหน้าที่ ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดมั่นในระเบียบวินัย เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ชาวประมง และประชาชนทั่วไปในการประกอบอาชีพ โดยกำชับให้หัวหน้าหน่วยงานถือปฏิบัติ และควบคุมการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ไม่ให้ใช้อำนาจในทางที่มิชอบเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน”