ผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกรายใหญ่เมืองกาญจน์ผนึกกำลังภาครัฐเปิดพื้นที่อบรมโชห่วยรายย่อย ยกระดับเป็นสมาร์ทโชห่วย
วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างเครือข่าย สู่การเป็นสมาร์ทโชห่วย ณ ทีเอ็มเค พาร์ค อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ว่า ทีเอ็มเค ซุปเปอร์มาร์เก็ต ได้ผนึกกำลังร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการเปิดพื้นที่จัดงาน “ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างเครือข่าย สู่การเป็นสมาร์ทโชห่วย” เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการร้านโชห่วยรายย่อยในจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมให้ศึกษาดูการจัดร้านค้าแก่ผู้ประกอบการ เพื่อเป็นต้นแบบในการนำกลับไปจัดร้านค้าของตนเอง
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเหนียวแน่นของผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมให้ธุรกิจท้องถิ่นของไทยมีความแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ในงานสัมมนาแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1) การบรรยายให้ความรู้หัวข้อ ก้าวถูกทิศพิชิตยอดขาย เปิดมุมมองใหม่ให้โชห่วยไทยสุดสมาร์ท โดยผู้ประกอบการจะได้ทราบถึงทิศทางของธุรกิจโชห่วยและโอกาสจากวิกฤตโควิด-19 2) กิจกรรมส่งเสริมการขายและเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ เน้นการบริหารจัดการร้านค้าโดยนำเทคนิคและวิธีการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ มาช่วยขยายตลาด เพิ่มยอดขาย
ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกทั้งรายย่อยและรายใหญ่ที่เข้าร่วมสัมมนา ทำให้ทราบว่าความเข้มแข็งของธุรกิจที่เกิดขึ้น เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ที่ถือคติร่วมกันว่า “ต้องเติบโตไปด้วยกัน เพื่อส่งเสริมให้กิจการรุ่งเรืองไปพร้อมกัน” โดยไม่ได้มองธุรกิจประเภทเดียวกันเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ แต่มองว่าเป็นพันธมิตรที่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ธุรกิจทั้งระบบมีความแข็งแกร่ง ซึ่งไม่เพียงจะเกิดเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจเฉพาะในจังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้น
แต่รวมถึงการสานสัมพันธ์กับพันธมิตรเครือข่ายข้ามจังหวัดที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์ และการค้าที่คล้ายคลึงกัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์การดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลาย สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาประยุกต์เพื่อปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจของตนเองได้อย่างลงตัว ส่งผลให้การประกอบการธุรกิจไม่โดดเดี่ยวเดียวดาย แต่มีพันธมิตรที่พร้อมช่วยเหลือเกื้อกูลและส่งเสริมสนับสนุนให้ธุรกิจมีความก้าวหน้าต่อไป
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของธุรกิจโชห่วยไทยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ปัจจุบันนิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ผู้ประกอบการโชห่วยจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัว โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการร้านค้า ขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ (อีคอมเมิร์ซ) ผลักดันร้านโชห่วยให้เป็นร้านสมาร์ทโชห่วย โดยผู้ประกอบการต้องเข้าสู่โลกดิจิทัลเพื่อเรียนรู้และซึมซับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดต้นทุนการประกอบธุรกิจ รวมถึงเพื่อรองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของภาครัฐที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกประชาชน เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น
“ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้ง ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ‘คนละครึ่ง’ ฯลฯ มั่นใจว่ารัฐบาลจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับพื้นฐาน และเทคโนโลยีจะเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนในการเข้าร่วมและเข้าถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล” รมช.พาณิชย์กล่าว
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2565) จังหวัดกาญจนบุรีมีผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกโชห่วยขนาดกลาง (นิติบุคคล) จำนวน 3,698 ร้านค้า และธุรกิจค้าปลีกโชห่วยขนาดเล็กประมาณ 6,000 ร้านค้า
ผู้ประกอบการโชห่วยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนส่งเสริมธุรกิจการค้า กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 0-2547-5986 สายด่วน 1570 e-Mail : [email protected] และ www.dbd.go.th