รมช.ศึกษาธิการ ขอนายก-กรรมการสภามหาวิทยาลัย อย่าเพิ่งลาออก รอ “วิษณุ” หารือ ป.ป.ช.ก่อน หลัง ป.ป.ช.ยืดบังคับใช้ประกาศอีก 60 วัน แนะเทียบอำนาจหน้าที่ ไม่ใช่ตำแหน่ง
เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีนายกและกรรมการสภามหาวิทยาลัยจะลาออก หลังต้องยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า หลังจาก ป.ป.ช.ขยายเวลาบังคับใช้ประกาศ ป.ป.ช.ออกไป 60 วัน ทำให้มีเวลาที่จะไปหาทางออก และทำให้นายกและกรรมการสภามหาวิทยาลัยมีโอกาส ขณะนี้ตนพยายามที่จะส่งข่าวไปยังนายกและกรรมการสภามหาวิทยาลัยทุกแห่งว่าอย่าเพิ่งลาออก รอให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กับ ป.ป.ช.ได้หาทางออกกันก่อน อย่างที่ทราบกันผลกระทบมันมากกว่าที่เราคิดไว้เยอะ อย่างน้อยการที่ ป.ป.ช.ยืดออกไป 60 วัน จะได้มีเวลาหารือกันมากขึ้น ซึ่งน่าเห็นใจ ป.ป.ช.เหมือนกันว่าจะหาทางออกอย่างไร เนื่องจากต้องทำตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 อย่างเดียว ดังนั้นต้องมาช่วยกันทั้งทางรัฐบาลและ ป.ป.ช. เช่น จะแก้ พ.ร.ป.ป.ป.ช.ใหม่หรือไม่ ซึ่งก็ต้องใช้เวลา หรือบางคนเสนอให้ใช้มาตรา 44 เป็นเรื่องที่ต้องไปคุยและตกลงกัน
- จีนแบน 3 บริษัทสหรัฐ ห้ามทำการค้า ห้ามผู้บริหารเข้าประเทศ
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ครม.ไฟเขียว เวนคืนที่ดิน สายไหม-คลองสามวา สร้างทางพิเศษส่วนต่อขยาย
“ผมคิดว่าถ้าจะแก้ต้องแก้ทั้งกระบิ จะมายกเฉพาะมหาวิทยาลัย แต่กลุ่มอื่นๆ อย่างองค์การมหาชนไม่ให้ก็จะเป็นประเด็นอีก ดังนั้นขอให้ใจเย็นนิดนึง อย่าเพิ่งลาออกตอนนี้ ถ้าลาออกกันเยอะๆ มันจะเกิดสุญญากาศ องค์ประชุมจะไม่ครบ มันจะลำบาก เพราะสภามหาวิทยาลัยต้องอนุมัติหลักสูตร ซึ่งมีการเสนอเข้าในที่ประชุมทุกครั้ง หรือตำแหน่งทางวิชาการที่มีการพิจารณากันทุกเดือน จะทำให้มีผลกระทบแน่นอน” นพ.อุดมกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงเวลา 60 วันที่ยืดออกไป หากนายกและกรรมการสภามหาวิทยาลัยยืนยันจะลาออก จะเพียงพอในการหาคนใหม่มาทดแทนหรือไม่ นพ.อุดมกล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ทันอยู่ดี การยืด 60 วัน ทำให้คนที่คิดจะลาออกมีเวลาพิจารณามากขึ้น เพียงแต่ถ้ายังไม่พอใจสิ่งที่เราจะปรับให้เขาก็มีสิทธิจะลาออกอยู่ดี ซึ่งคงเป็นช่วงท้ายๆ ในระยะเวลา 60 วัน แต่กระบวนการสรรหาใหม่เร็วสุดต้องใช้เวลา 2 เดือน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขอว่าอย่าเพิ่งลาออก เพราะรัฐบาลเต็มที่อยู่แล้วว่าต้องพยายามหาทางออกให้ได้
รมช.ศึกษาธิการกล่าวว่า ตอนที่ ป.ป.ช.ทำประกาศไม่ได้มาปรึกษากับทางกระทรวงศึกษาธิการ เพราะ ป.ป.ช.ต้องทำตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยเขียนไว้กว้างๆ ว่าต้องเป็นผู้บริหารระดับสูง ส่วนเป็นใครบ้าง ป.ป.ช.เป็นผู้ตีความ ซึ่งตนคิดว่าการเทียบตำแหน่งไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องทีเดียว แต่ต้องเอาอำนาจหน้าที่เป็นหลัก สภามหาวิทยาลัยอนุมัติแต่หลักสูตรและตำแหน่งต่างๆ ไม่มีสิทธิอนุมัติงบประมาณ แค่เห็นชอบเพื่อส่งมาให้สำนักงบประมาณ เป็นเพียงทางผ่านเฉยๆ ไม่มีอำนาจหน้าที่อะไรเกี่ยวกับเรื่องเงินเลย แต่พอ ป.ป.ช.เทียบเอาตำแหน่งเป็นหลักทั้งที่บางตำแหน่งไม่เกี่ยวข้องเลย มันจึงเกิดผลกระทบ เป็นความปั่นป่วนวุ่นวายที่เกิดขึ้น