เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน นายฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ได้ประกาศงดรับนักศึกษาในระบบกลางการรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา หรือทีแคส ปีการศึกษา 2562 รอบ 1 แฟ้มสะสมงาน รับสมัครระหว่างวันที่ 1-15 ธันวาคม 2561 เนื่องจากอยู่ระหว่างปรับปรุงหลักสูตรจาก 5 ปีเป็นหลักสูตร 4 ปี โดยจะเริ่มรับนักศึกษาในรอบ 2 รอบโควตาถึงรอบที่ 5 รับตรงอิสระ ขณะที่ นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ชี้แจงว่ากรอบเวลาการปรับหลักสูตรมหาวิทยาลัยจะสามารถรับสมัครนิสิตนักศึกษาเข้าเรียนคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ได้ในการรับสมัครทีแคสรอบ 2 ระหว่างวันที่ 21 มกราคม – 25 เมษายน 2562 เพราะต้องรอให้ร่างหลักสูตรมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (มคอ.) 1 ระดับปริญญาตรี (หลักสูตร 4 ปี) และระดับบัณฑิตศึกษาสาขาครุศาสตร์และสาขาศึกษาศาสตร์ กำลังดำเนินการ ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ประมาณเดือนมกราคม 2562 ก่อน นั้น มร.สส. ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อดูรายละเอียดต่างๆ ในการรับแด็กเข้าเรียนคณะครุศาสตร์ ซึ่งยืนยันมาแล้วว่า มร.สส.สามารถรับเด็กผ่านระบบทีแคสได้ตั้งแต่รอบแรก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงหลักสูตรจาก 5 ปี เป็น 4 ปี ซึ่งหากร่าง มคอ.1 ผ่านความเห็นชอบจาก กกอ.มหาวิทยาลัยก็สามารถปรับรายละเอียด และเสนอให้สภามหาวิทยาลัยอนุมัติหลักสูตรได้ทันก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ในเดือนสิงหาคม 2562
“มร.สส.มีความพร้อม และคิดว่าสามารถปรับหลักสูตรได้ทันแน่นอน การปรับครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องดี หากศึกษาจากประวัติศาสตร์พบว่า ในช่วงที่ปรับไปใช้หลักสูตร 5 ปี เพราะในช่วงนั้นคิดกันว่า เด็กที่เข้ามาเรียนครูส่วนใหญ่ เพราะไม่มีที่เรียน ไม่ใช่เด็กหัวกะทิจบออกไปแล้วไม่มีจิตวิญญาณความเป็นครู ดังนั้นจึงเพิ่มจาก 4 ปี เป็น 5 ปี แต่ตอนนี้ยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป เด็กหัวกะทิ นิยมมาเรียนครูมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นที่ มร.สส. เปิดรับเพียง 360 คนต่อปี แต่มีเด็กเข้ามาสมัครมากถึง 30,000 คน กระบวนการคัดกรองจึงต้องเข้มข้น มั่นใจว่าได้เด็กหัวกะทิเข้ามาเรียนครูอย่างแน่นอน เพราะเด็กบางคนสอบติดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะอื่น แต่ก็เลือกมาเรียนครูที่ มร.สส.”นายฤๅเดชกล่าวและว่า สำหรับการรับเด็กเข้าเรียน ปี 2562 ภาพรวมของ มร.สส.เปิดรับประมาณ 7,500 คน จากเดิมที่รับประมาณ 8,000 คน เหตุที่ลดลง เพราะไปลดจำนวนคณะ/สาขาที่ไม่ได้รับความนิยมลง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
