โฆษก ศธ.ขอบคุณนายกฯ หลังชี้แจงในสภาให้ความสำคัญปฏิรูปการศึกษา

โฆษกกระทรวงศึกษาธิการขอบคุณนายกรัฐมนตรีหลังชี้แจงในสภา ให้ความสำคัญปฏิรูปการศึกษา หนุนนโยบายคุณหญิงกัลยา เดินหน้า Coding For All-Project 14 เรียนประวัติศาสตร์ผ่านสื่อร่วมสมัย 

วันที่ 3 กันยายน 2564 นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกประจำตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) ขอบคุณนายกรัฐมนตรี หลังกล่าวชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 2 กันยายน 2564 ที่ผ่านมาว่ารัฐบาลให้ความสำคัญปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ พร้อมพูดถึงนโยบายคุณหญิงกัลยา ทั้ง Coding For All-Project 14 การเรียนออนไลน์ ที่มีความเหมาะสมกับศตวรรษที่ 21 และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมทั้งนโยบายการอ่านเขียนเรียนประวัติศาสตร์ผ่านการสื่อสารร่วมสมัย ที่จะช่วยให้เยาวชนตระหนักถึงรากเหง้าทางวัฒนธรรมที่ดีงามของประเทศ

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกประจำตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) กล่าวว่า ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษา โดยเฉพาะการขับเคลื่อนในส่วนของนโยบายที่สำคัญที่ริเริ่มโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ทั้งนโยบาย Coding ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่ามีความสำคัญต่อเยาวชนเป็นอย่างมาก จำเป็นต้องเริ่มเรียนตั้งแต่เด็ก ให้รู้จักคิด วิเคราะห์เป็น สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันทั้งการเรียนและการทำงานในอนาคต

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงโครงการ Project 14 ที่พัฒนาโดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี (สสวท.) หน่วยงานในกำกับของคุณหญิงกัลยา ซึ่งการเรียนรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ภายใต้โครงการนี้เป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา จะทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา กำหนดการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เน้นความเข้าใจเชื่อมโยงชีวิตจริง และตรงตามหลักสูตรที่ผู้เรียนจะได้รับความรู้เทียบเท่าในห้องเรียน เหมาะสมกับการเรียนในสถานการณ์ปัจจุบันรวมไปถึงการปรับวิธีการเรียนประวัติศาสตร์ โดยผ่านการสื่อสารร่วมสมัย เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเรียนของนักเรียนซึ่งทั้งหมดถือเป็นแนวทางในการวางรากฐานการปฏิรูปการศึกษาโดยตรงถึงเยาวชนไทย 

“ขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านได้กล่าวในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 2 กันยายน 2564 ถึงการปฏิรูปการศึกษา ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษามาโดยตลอด เยาวชนคืออนาคตของชาติ รัฐบาลต้องดูแลทั้งครูและนักเรียนให้ดี วันนี้เรากำลังทำในสิ่งใหม่ๆ ทั้งการปรับหลักสูตรการเรียนรู้ รูปแบบการเรียนการสอน และวัดผล เพื่อให้เป็นไปตามรูปแบบที่เหมาะในศตวรรษที่ 21 และสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งได้มีการปฏิรูปทั้งตัวผู้สอนคือครู และรูปแบบการเรียนการสอน อาทิ หลักสูตร Coding โครงการ Project 14 และการเรียนประวัติศาสตร์ โดยผ่านการสื่อสารร่วมสมัย เป็นต้น” นางดรุณวรรณกล่าว

นางดรุณวรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายทั้ง 3 ส่วนนั้นได้ถูกริเริ่มโดย ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้ขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้มีการขับเคลื่อนนโยบาย Coding For All โดยมีเป้าหมายที่ต้องการเร่งกระจายการเรียนรู้ Coding ไม่เฉพาะแต่ครูและนักเรียนเท่านั้น แต่ต้องกระจายไปสู่ทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ทุกช่วงวัยให้ได้มากที่สุด เพราะเชื่อว่า Coding คือ ทางรอดของทุกวิกฤต หากเยาวชนมีพื้นฐานความรู้เรื่อง Coding ก็จะสามารถให้รองรับการแข่งขันในโลกอนาคตได้เป็นอย่างดี

เช่นเดียวกับโครงการ Project 14 ซึ่งจัดทำโดย สสวท. เป็นการเปลี่ยนบทเรียนจากหนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ คณิศาสตร์ และเทคโนโลยี ให้มาเป็นบทเรียนออนไลน์ที่ประกอบด้วยวิดีโอการสอนที่ครอบคลุมทุกวิชาวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ทุกชั้นปี ตั้งแต่ชั้น ป.1-ม.6 ประมาณกว่า 2,000 คลิป มั่นใจว่านักเรียนจะได้รับความรู้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ส่วนการเรียนประวัติศาสตร์ โดยผ่านการสื่อสารร่วมสมัย นั้นได้มีการพัฒนารูปแบบสื่อการเรียนการสอนให้มีความทันสมัย ในรูปแบบสื่อเทคโนโลยี พร้อมขยายผลการใช้สื่อสู่ห้องเรียนในรูปแบบหลายหลายช่องทาง ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ 

โดยปัจจุบันได้เริ่มปรับใช้ในการเรียนการสอนในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ที่เปิดการเรียนการสอนแบบสมบูรณ์ 100% จำนวน 11 แห่ง โดยมุ่งให้เกิดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์แบบวิพากษ์ร่วมสมัย เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตจริง