Digital Transformation ต่อยอดธุรกิจปี 2018

คอลัมน์ Smart SMEs

โดย พรรณวลัย อินทราพิเชฐ

ในช่วงต้อนรับปีใหม่ มักจะมีโพลหลายสำนักออกมาเผยโฉมแนวโน้มความน่าจะเป็นของปี 2561 เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักและปรับตัวให้เท่าทันกับสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี คงไม่มีประเด็นใดน่าสนใจเท่ากับการชี้ชัดว่าปีจอนี้ ธุรกิจไหนรุ่ง ธุรกิจไหนร่วง เพื่อสำรวจตรวจสอบว่าธุรกิจของตนจัดอยู่ในข่ายใดกันแน่

หากสังเกตให้ดี จะพบว่าธุรกิจที่ยังคงอยู่ในกระแสส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจที่มีนวัตกรรม หรือสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางธุรกิจเสี่ยงต่อการล้มหายตายจาก เพราะไม่สามารถปรับเปลี่ยนระบบการค้าหรือการประกอบธุรกิจให้ทันสมัย หรือปรับตัวให้ก้าวทันกับเทรนด์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้ หากธุรกิจของคุณจัดว่ามีอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้า ก็อย่าได้ประมาท ในทางตรงกันข้าม หากธุรกิจเข้าข่ายอาการน่าเป็นห่วง ก็อย่าเพิ่งเป็นกระต่ายตื่นตูมหรือหมดกำลังใจไป ทำไมไม่ใช้เวลาอันดีนี้ นั่งทบทวนตรวจเช็ก “สุขภาพ” ธุรกิจของตนเอง สิ่งที่เป็นจุดแข็งก็รักษาไว้และทำให้มันดียิ่งขึ้น ส่วนจุดอ่อนก็ต้องเยียวยาแก้ไข เพื่อที่จะเป็น “ผู้อยู่รอด” (survivor) อย่างยั่งยืนในระยะยาว

โดยเฉพาะการรับมือกับเทคโนโลยีดิจิทัล ที่เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ไปอย่างสิ้นเชิง ผู้บริโภคยุค 4.0 มีดีมานด์มากขึ้น ชอบอะไรที่สะดวก รวดเร็ว ง่าย ตรงใจ และมีโอกาสให้เลือกเยอะ ฉะนั้น การจะทำธุรกิจให้อยู่รอด ผู้ประกอบการต้องขยับตัวให้ไว ปรับตัวตามให้ทัน นี่คือความท้าทายของเอสเอ็มอียุค 4.0

สิ่งแรกที่ต้องทำรับปีใหม่ คือการเปิดโลก เปิดใจของผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีรายใดที่ยังคงหลงติดอยู่กับความสำเร็จเก่า ๆ อาจต้องปรับวิธีคิดเสียใหม่ การทำธุรกิจยุคนี้ผลิตมาก ไม่ได้แปลว่าจะขายได้มาก เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่มีทุนหนา ก็ใช่ว่าจะได้เปรียบ เพราะหมดยุคปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่เป็นยุคของปลาเร็วกินปลาช้า แล้วสถานะปัจจุบันของคุณล่ะ ? กำลังเป็น “ปลาเร็ว” หรือว่า “ปลาช้า” เอสเอ็มอีต้องใช้ความเล็กของธุรกิจตนเองให้เป็นประโยชน์ และเพิ่มสปีดความเร็วในการปรับตัวเข้าไป โชคดีว่ายุคนี้เครื่องไม้เครื่องมือราคาถูกกว่ายุคก่อนมาก เอสเอ็มอีทำ digital business transformation ได้ไม่ยาก และสามารถทำได้ทันที

ต่อมา ต้องกลับมาสำรวจตนเองก่อนว่าอยู่ในธุรกิจไหน ผู้บริโภคหรือลูกค้าเป็นใคร ต้องวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป แบบเจาะลึกให้ถึง insight เพื่อจะได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับปรุงหรือประยุกต์ใช้ในธุรกิจได้อย่างถูกต้อง หรือแม้กระทั่งสร้างบิสซิเนสโมเดลใหม่ขึ้นมาตอบโจทย์ผู้บริโภค

ยกตัวอย่างหนึ่งในเทคโนโลยีเบสิกที่ใกล้ตัวผู้ประกอบการมากในเวลานี้ คือ ระบบการชำระเงินด้วย QR code ที่รัฐบาลกำลังโหมผลักดันเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (cashless society) อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต อย่างน้อยเอสเอ็มอีเจ้าของร้านค้าต้องมีความรู้ที่จะสร้าง QR code เพื่อรับชำระเงินหน้าร้าน เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ไม่ได้พกพาเงินสดติดตัว สามารถจับจ่ายสินค้าและบริการผ่านโมบายแอปพลิเคชั่นได้เลยทันที นอกเหนือจากการรับบัตรเดบิตและบัตรเครดิต

ผลักดันตัวเองไปข้างหน้า ดีกว่าถูกคนอื่นผลักอยู่ข้างหลัง เพราะหากหลักไม่ดี เอสเอ็มอีก็อาจสะดุดหกล้มเอาได้ ฉะนั้น ต้องเปิดใจให้กว้าง อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลง แต่จงกลัวที่จะทำอะไรแบบเดิม ๆ เหมือนย่ำอยู่กับที่ หมั่นพัฒนาตนเองให้ทันสมัย เรียนรู้ที่จะอยู่รอด ทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่อนาคต ธุรกิจในมือจะรุ่ง ร่วง หรือรอด ? อยู่ที่คุณเป็นผู้กำหนด

สวัสดีปีใหม่ค่ะ