รายย่อยเก็งกำไร DW ดักหุ้นลง หวั่นดัชนีทุบสถิติเหนือ 1,800 จุดยืนช่วงสั้น

นักลงทุนแห่ซื้อ SET50 Put DW เก็งกำไรหุ้นช่วงปรับฐาน ผวาดัชนีพุ่งแรงกว่า 1,800 จุด ฟาก บล.เคจีไอฯ ชี้แนวโน้มรายย่อยหันมาเทรด DW อ้างอิงหุ้นใหญ่หนาแน่นขึ้น โดยเฉพาะ DW อิงหุ้นสตอรี่ดี นำโดย “น้ำมัน-ท่องเที่ยว-แบงก์”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครึ่งเดือนแรกของ ม.ค. 2561 (1 ม.ค.-16 ม.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มหันมาซื้อขายเก็งกำไร SET50 Put DW กันมากขึ้น ซึ่ง SET50 Put DW เป็นใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับดัชนีหุ้นขนาดใหญ่ 50 อันดับแรก ในฝั่งที่คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง โดยสะท้อนได้จากปริมาณการซื้อขาย (วอลุ่ม) SET50 Put DW มีสัดส่วนสูงถึง 54% ของ SET50 DW ทั้งหมด ส่วนวอลุ่มที่เหลืออีก 46% เป็น SET50 Call DW ซึ่งเป็นใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับดัชนีหุ้นขนาดใหญ่ 50 อันดับแรก ในฝั่งที่คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้น

นอกจากนี้ นักลงทุนไทยยังได้ให้ความสนใจเก็งกำไรใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) ในหุ้นขนาดใหญ่หลายบริษัท โดย 3 อันดับแรก (ดูตารางประกอบ) ได้แก่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) บมจ.บ้านปู (BANPU)

นายเจนวิทย์ ชินกุลกิจนิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า หลังดัชนีปรับขึ้นทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง ทำให้

นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรใน DW คึกคัก ทั้งใน SET50 DW และ DW ที่อ้างอิงหุ้นรายตัว โดยสถานการณ์มีความแตกต่างจากในช่วงก่อนหน้านี้ คือ การเก็งกำไรใน SET50 Put DW เริ่มปรับตัวสูงขึ้น จนวอลุ่มเพิ่มขึ้นแซง SET50 Call DW แล้ว ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการที่นักลงทุนเริ่มมีความกังวลว่า ดัชนีอาจจะปรับตัวขึ้นต่อได้อีกไม่ง่ายนัก จึงหันมาหาช่องทางเก็งกำไรตลาดขาลงแทน รวมถึงอาจมีนักลงทุนส่วนหนึ่งใช้ SET50 Call DW บริหารความเสี่ยงของพอร์ตด้วย

Advertisment

“นักลงทุนสนใจ SET50 Put DW มากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนเริ่มกังวลว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังยืนต่อที่ระดับ 1,800 จุด ได้อีกหรือไม่ ดังนั้นในเวลาแบบนี้ การลงทุน SET50 Put DW จึงเป็นช่องทางในการเก็งกำไร และบริหารพอร์ต” นายเจนวิทย์กล่าว

ส่วนการลงทุนใน DW ที่อ้างอิงหุ้นรายตัวพบว่า หุ้นขนาดใหญ่หลายบริษัทได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งในส่วนของ บล.เคจีไอฯ พบว่า DW ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงต้นปีนี้ ได้แก่ DW ที่อ้างอิงหุ้น BANPU-AOT และ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) โดยแนวโน้มจากนี้คาดการณ์ว่านักลงทุนน่าจะเข้ามาเก็งกำไรในหุ้น DW ที่อ้างอิงหุ้นขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น แต่จะเลือกเฉพาะบริษัทที่มีประเด็นที่น่าสนใจ เช่น DW ที่อ้างอิงหุ้นกลุ่มน้ำมัน กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มธนาคารพาณิชย์

“หลังจากนี้การเก็งกำไรใน DW ที่อ้างอิงหุ้นใหญ่น่าจะยังคึกคักต่อ โดยเฉพาะในหุ้นที่อยู่ใน 1-50 อันดับแรกของตลาด ซึ่งต่างจากปีก่อนที่การเก็งกำไรส่วนใหญ่จะอยู่ในหุ้นขนาดกลาง ตั้งแต่ 51-100 อันดับแรกของตลาด และมองว่าการเก็งกำไรใน DW ที่อ้างอิงหุ้นรายตัวที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเน้นพวกบริษัทที่สตอรี่ดี เช่น พลังงาน ซึ่งราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นจนสนับสนุนให้ราคาหุ้นไปต่อ กลุ่มท่องเที่ยว เช่น AOT ที่ได้รับผลดีจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย และกลุ่มแบงก์ ที่งบฯปีนี้น่าจะออกมาดี” นายเจนวิทย์กล่าว

พร้อมกันนี้ ในวันที่ 24 ม.ค.นี้ บริษัทจะมีการประชุมผู้ถือหุ้น โดยจะมีวาระขออนุมัติวงเงินในการออก DW เพิ่มขึ้นจากเดิม 2,000 ล้านบาท เป็น 3,000 ล้านบาท และหากเกินระดับวงเงินดังกล่าว ก็สามารถขยับเพดานเป็น 5,000 ล้านบาท โดยไม่ต้องขออนุญาตผู้ถือหุ้น

Advertisment

นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง ซึ่งเป็นผู้ออก DW ที่มีวอลุ่มสูงสุดอันดับหนึ่ง 7 ปีซ้อน กล่าวว่า การลงทุน DW อย่างปลอดภัย มี 10 เคล็ดลับดังนี้ 1.นักลงทุนต้องกำหนดจุดทำกำไร หรือตัดขาดทุน ให้ชัดเจนก่อนลงทุนทุกครั้ง 2.เลือก DW ให้เหมาะกับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ 3.ตรวจสอบราคาที่เหมาะสม ก่อนจะซื้อ DW ทุกครั้ง 4.ไม่ถือ Put DW ข้ามเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล) เพราะผู้ออกจะปรับสิทธิ DW เมื่อหุ้นอ้างอิงจ่ายเงินปันผล 5.อย่าถือ DW จนผ่านวันซื้อขายวันสุดท้าย เพราะเงินสดส่วนต่างที่ได้รับจะถือเป็นเงินได้พึงประเมินจะต้องนำไปเสียภาษี

6.ไม่ควรลงเงินทั้งหมดที่มีอยู่กับ DW 7.ติดตามข่าวสารเป็นประจำ 8.จดบันทึกการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ 9.ใช้เทคนิคง่าย ๆ ในการลงทุน เช่น การวิเคราะห์แนวรับและแนวต้านของหลักทรัพย์อ้างอิง 10.ใช้เครื่องมือช่วยการลงทุนที่โบรกเกอร์ต่าง ๆ อำนวยความสะดวกให้