คอลัมน์ : เช็กกระแสหุ้น
ภาพรวมตลาดหุ้นไทย สัปดาห์ที่ผ่านมา (7-11 พ.ย.) ยังคงปรับตัวขึ้น
โดย “ณัฐชาต เมฆมาสิน” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา มีทิศทางที่ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกับตลาดหุ้น เพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชีย
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
รวมถึงตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ต.ค. ออกมาที่ 7.7% น้อยกว่าที่คาดการณ์กันไว้ที่ 7.9% ส่งผลให้ตลาดมีการคาดการณ์ถึงประมาณ 80% ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมครั้งหน้า
ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐ อายุ 10 ปี ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 4% ซึ่งเป็นบวกต่อตลาดหุ้น ขณะที่ปัจจัยทางการเมืองในการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐยังคงมีความก้ำกึ่ง และน่าจะต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักกว่าจะเห็นถึงความชัดเจน
ส่วนมองไปในสัปดาห์ข้างหน้า (14-18 พ.ย.) ประเมินตลาดหุ้นไทย น่าจะแกว่งตัวในทิศทาง sideway up โดยให้แนวรับไว้ที่บริเวณ 1,620 จุด และแนวต้านที่บริเวณ 1,650 จุด ซึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม คือความคิดเห็นของกรรมการเฟด และประธานเฟดสาขาต่าง ๆ ที่หลังจากนี้จะเริ่มออกมาให้ความเห็นกับสื่อมากขึ้น เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย
“หากเฟดมีการออกมาพูดในเชิงที่ตอกย้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ ตลาดจะยิ่งมั่นใจมากขึ้นไปอีกว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย จากเดิมสัดส่วนอยู่ที่ 80% ก็จะถูกยกระดับมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหมายความว่าบอนด์ยีลด์สหรัฐ หรือดอลลาร์สหรัฐ จะปรับย่อตัวลงมาได้อีก ก็จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก”
สำหรับกลยุทธ์ลงทุน แนะนำหุ้นที่เคยเสียประโยชน์จากบอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวขึ้น เพราะคาดว่าหากบอนด์ยีลด์จะเริ่มปรับลง หุ้นกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ดีดกลับขึ้นมาได้ก่อน ได้แก่ หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งความน่าสนใจจะเริ่มกลับมามากขึ้น โดยแนะนำ RATCH, EGCO, GPSC, GULF และ BGRIM และหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ แนะนำ TIDLOR และ AEONTS