สินเชื่อ “บ้านแลกเงิน“ เดือด แบงก์แห่ชิงเค้ก 8 หมื่นล้าน

สินเชื่อที่อยู่อาศัย

แบงก์พาเหรดออกแคมเปญ “บ้านแลกเงิน” ดอกเบี้ยจูงใจ-ชิงฐานลูกค้า “กรุงศรีฯ” ประเมินตลาดโตต่อเนื่อง 20% มูลค่า 7.67 หมื่นล้าน ด้าน “ทีทีบี” เน้นตอบโจทย์คนต้องการลดภาระหนี้-ดอกเบี้ยแพง ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปีนี้เพิ่ม 1 หมื่นล้าน ฟาก “ซีไอเอ็มบี ไทย” ชี้ สัญญาณบ้านใหม่โตยาก-ลูกค้าต้องการสภาพคล่อง-มาร์จิ้นสูง หนุนแบงก์ลงสนาม พร้อมงัดโปรโมชั่น ดบ.ปีแรกคงที่ 3.99% ต่อปี

นายเอกสิทธิ์ พฤฒิพลากร ผู้บริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปีนี้แนวโน้มตลาดสินเชื่อบ้านอเนกประสงค์ หรือบ้านแลกเงิน จะเป็นตลาดที่สถาบันการเงินลงมาแข่งขันกันมากขึ้น เนื่องจากตลาดบ้านใหม่ปล่อยได้ยากขึ้น และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (มาร์จิ้น) ค่อนข้างต่ำในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น

โดยเฉลี่ยดอกเบี้ยบ้านใหม่อยู่ที่ 3% เทียบบ้านอเนกประสงค์เฉลี่ย 5% มีส่วนต่างมาร์จิ้น 2% และในภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูง เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวและเพิ่งฟื้นจากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้มีความต้องการสินเชื่อเพื่อปิดหนี้เดิมที่มีดอกเบี้ยสูง เช่น นำไปปิดดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล 25% บัตรเครดิต 16% หรือเช่าซื้อเฉลี่ย 8-9% รวมถึงยังนำไปใช้จ่ายยามฉุกเฉินหรือขยายการลงทุนได้ด้วย

ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับอัตราดอกเบี้ยอีก 1-2 ครั้ง จึงเสนอแคมเปญ “สินเชื่อบ้านอเนกประสงค์” อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.99% ต่อปี สำหรับปีแรก และปีที่ 2 และ 3 ดอกเบี้ย 5.49% หรือเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 4.99% ต่อปี ถือเป็นดอกเบี้ยที่ต่ำและน่าสนใจในเวลานี้

แม้มูลค่าตลาดสินเชื่อบ้านอเนกประสงค์ อาจจะไม่ใหญ่เทียบเท่าตลาดสินเชื่อบ้านใหม่ที่มีสัดส่วนประมาณ 30% ของสินเชื่อรายย่อย แต่สินเชื่อบ้านอเนกประสงค์มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยปี 2566 ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อบ้านอเนกประสงค์ราว 5,000 ล้านบาท

หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของยอดปล่อยสินเชื่อบ้านทั้งสิ้น 3.2 หมื่นล้านบาท ส่วนในแง่ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ยอมรับว่าสูงกว่าบ้านใหม่ ดังนั้นธนาคารจึงเลือกลูกค้าด้วยการเน้นกลุ่มรายได้ 3 หมื่นบาทขึ้นไป

“ทีทีบี” ตั้งเป้าปล่อยหมื่นล้าน

นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต หรือทีทีบี กล่าวถึงตลาดสินเชื่อบ้านแลกเงิน โดยยอมรับว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (มาร์จิ้น) ดีกว่าสินเชื่อบ้านใหม่ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ธนาคารหันมาเล่นตลาดนี้เป็นหลัก และในแง่การเติบโต ตลาดบ้านแลกเงินจะขยายตัวในสัดส่วนที่สูงกว่าสินเชื่อบ้านใหม่ โดยสินเชื่อบ้านใหม่จะขยายตัว 2-5% เมื่อเทียบกับสินเชื่อบ้านแลกเงินที่ขยายตัวราว 7-10% ต่อปี

ขณะเดียวกัน ธนาคารต้องการเสนอ “บ้านแลกเงิน” เป็นเครื่องมือในการลดภาระดอกเบี้ยจ่ายของลูกค้าในสินเชื่อประเภทอื่น เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต และยังเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการลดภาระหนี้ครัวเรือน และยังทำให้คุณภาพหนี้ดีขึ้น

อย่างไรก็ดี ลูกค้ายังคงมีความกังวลและกลัวบ้านจะถูกยึด จึงไม่กล้านำที่อยู่อาศัยมาทำบ้านแลกเงิน ประกอบกับกระบวนการในการทำบ้านแลกเงินต้องใช้เวลาและมีค่าใช้จ่าย จึงยังเป็นอุปสรรคในการเติบโตของผลิตภัณฑ์บ้านแลกเงิน

ปีนี้ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ ttb CashYourHome อยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่ออยู่กว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยเน้นกลุ่มลูกค้าสินเชื่อบ้าน ttb ปัจจุบันที่มีวงเงินเปิด เพื่อให้นำไปรีไฟแนนซ์ สินเชื่อดอกเบี้ยสูง หรือไปรวบหนี้จากที่อื่น ๆ มาไว้ที่ธนาคาร รวมถึงกลุ่มลูกค้ารีไฟแนนซ์บ้านที่สามารถกู้เพิ่มได้ เพื่อเอาไปชำระหนี้อื่น ๆ ที่ดอกเบี้ยสูง

“ในแง่การแข่งขันเรื่องดอกเบี้ยอาจไม่แตกต่างกันมาก แต่เทียบกับดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลถูกกว่า 5-10% ลูกค้าสามารถนำไปชำระหนี้ดอกเบี้ยสูง ๆ ได้ ซึ่งปีก่อนเราสามารถช่วยลดภาระดอกเบี้ยลูกค้าลงกว่า 200 ล้านบาท จากมูลหนี้ 2,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เข้ามาจะเป็นลูกค้าเดิม ลูกค้ารีไฟแนนซ์มา และบ้านปลอดภาระมีไม่ถึง 10%”

กรุงศรีฯมั่นใจตลาดโตต่อเนื่อง

นายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานสินเชื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวถึงตลาดบ้านแลกเงินว่า คาดว่าปีนี้จะฟื้นตัวอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับช่วง 3 ปีที่ผ่านมาที่ลดลงจากสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากเข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการใช้เงินเพื่อขยายการลงทุนและฟื้นฟูกิจการ

ประกอบกับมีรายได้กลับมาและมีความสามารถในการผ่อนชำระเพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง ปีนี้คาดว่าสินเชื่อบ้านแลกเงินจะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% กลับมายืนในระดับเดียวกับปี 2562 อยู่ที่ 7.67 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 6.37 หมื่นล้านบาท เติบโต 3.14%

กรุงศรีฯให้ความสำคัญกับสินเชื่อบ้านแลกเงิน (โฮมฟอร์แคช) มาโดยตลอด และมีการเติบโตต่อเนื่อง ตอนนี้ธนาคารเสนอโปรโมชั่นพิเศษสำหรับวงเงินกู้ 5 ล้านบาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก MRR-1.75% หรือ 5.15% จากปัจจุบัน MRR อยู่ที่ 6.90% ต่อปี เพื่อแบ่งเบาภาระผู้บริโภคในช่วงเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว

“ตอนนี้หลายธนาคารลงมาทำแคมเปญบ้านแลกเงินมากขึ้น เพราะตอบสนองความต้องการในการใช้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล จากการมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมถึง ธปท.และแบงก์ เสนอทางเลือกในการรวมหนี้ดอกเบี้ยสูง ย้ายมาอยู่ในสินเชื่อประเภทนี้ที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า งวดผ่อนต่ำกว่า และระยะการผ่อนยาวนานกว่า เป็นการแบ่งเบาภาระผู้บริโภค ส่วนในมุมธนาคารก็ถือว่าได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าสินเชื่อบ้านใหม่”

แคมเปญบ้านแลกเงินเกลื่อน

จากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่า สำหรับแคมเปญ “สินเชื่อบ้านแลกเงิน” นอกจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทยแล้ว ยังมีหลายธนาคารทำแคมเปญเช่นเดียวกัน เช่น ทีเอ็มบีธนชาต หรือทีทีบี มีแคมเปญ “สินเชื่อบ้านแลกเงิน” อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล เฉลี่ย 3 ปีแรก เริ่มเพียง 5.73% ต่อปี ให้วงเงินสูงสุด 15 ล้านบาท ผ่อนต่อเดือนเริ่มล้านละ 6,500 บาท,

กรุงศรีอยุธยา “สินเชื่อบ้านแลกเงิน” หรือ “โฮมฟอร์แคช” อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 5.15% ต่อปี นาน 3 ปี วงเงินสูงสุดถึง 85% ของราคาประเมิน หากเป็นลูกค้าเดินบัญชีเงินเดือนกับธนาคาร (payroll) ลดดอกเบี้ยปีแรกอีก 0.25% ต่อปี และฟรีค่าธรรมเนียมทุกขั้นตอน

ขณะที่ออมสิน “สินเชื่อบ้านแลกเงิน” อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 เดือนแรกอยู่ที่ 3.99% ต่อปี เดือนที่ 4-12 อยู่ที่ MRR-1.000% (ปัจจุบัน MRR อยู่ที่ 6.745% ต่อปี) หรือเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 5.932% ต่อปี ผ่อนแสนละ 399 บาทต่อเดือน ยื่นกู้ภายใน 30 มิ.ย. 2566 และทำสัญญาภายใน 31 ก.ค. 2566

ขณะที่แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank) “สินเชื่อบ้านเพิ่มเงิน” หรือ Happy Home for Cash อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 5.35% ต่อปี วงเงินอนุมัติ 80% ของราคาประเมิน ระยะเวลากู้สูงสุด 30 ปี โดยบ้านที่เข้าโครงการสามารถเป็นบ้านหมดภาระหรือผ่อนอยู่ ตั้งแต่วันนี้-30 มิ.ย. 2566

กรุงไทย “สินเชื่อกรุงไทยบ้านให้เงิน” อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 MRR-1.50% ต่อปี หลังจากนั้น MRR-0.50% ต่อปี (ปัจจุบัน MRR อยู่ที่ 7.12% ต่อปี) หรือคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา 6.38% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท ผ่อน 30 ปี, กสิกรไทย “สินเชื่อบ้านช่วยได้” อัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 8.85% ต่อปี ให้วงเงินสินเชื่อ 90% ของราคาประเมิน,

ไทยพาณิชย์ “สินเชื่อบ้านคือเงิน” อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 8.520% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 30 ปี และกรุงเทพ “สินเชื่อบัวหลวงพูนผลบ้านแลกเงิน” หรือ Home for Cash อัตราดอกเบี้ย MRR+0.75% ต่อปี (ปัจจุบัน MRR อยู่ที่ 6.85% ต่อปี) วงเงินสูงสุด 10 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 10 ปี