พาส่อง 6 หุ้นอสังหาฯ ยกทัพ ขายหุ้นกู้เดือนก.ค. ดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
วันที่ 27 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเดือนก.ค.นี้มีบริษัทที่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้กันอย่างคึกคักรวม 6 บริษัท และยังจ่ายดอกเบี้ยสูงสุดถึง 7.40% “ประชาขาติธุรกิจ” รวมรวบข้อมูลมาให้สำหรับนักลงทุนที่สนใจ ดังนี้
บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน
หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้
1.อายุ 3 ปีครบกำหนดไถ่ถอนปีพ.ศ 2569 อัตราดอกเบี้ย 4.30-4.40% ต่อปี
2.อายุ 4 ปีครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ 2570 อัตราดอกเบี้ย 4.50-4.60% ต่อปี
เปิดให้จองซื้อระหว่าง 6-7 และ 10 กรกฎาคม 2566 โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 พบว่าองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB+ ส่วนหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถือ BBB+
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้
1.เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อเอามาซื้อที่ดินและลงทุนเพิ่มเติม
2.ชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดและหนี้ระยะสั้น
บมจ.แอสเซทไวท์ (ASW)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่
หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้
1.อายุ 2 ปี 3 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2568 อัตราดอกเบี้ย 5.50% ต่อปี
2.อายุ 3 ปีครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 อัตราดอกเบี้ย 5.95% ต่อปี
เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2566 โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 พบว่าองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB- ส่วนหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและเพื่อพัฒนาโครงการในอนาคต
บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่
หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้
1. อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 อัตราดอกเบี้ย [ ]% ต่อปี
2. อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2570 อัตราดอกเบี้ย [ ]% ต่อปี
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 13-14 และ 17 กรกฎาคม 2566 จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566พบว่าองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB+ และหุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BBB+
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ และเพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
บมจ.เจ้าพระยามหานคร (CMC)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน ซึ่งผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 7.30% ต่อปีจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่
หลักประกัน คือ
1.ห้องชุดพักอาศัย จำนวน 210 ห้องชุดโครงการอาคารชุด ชาโตว์ อินทาวน์ ปั่นเกล้า มูลค่าประเมิน 550.63 ล้านบาท
2.จำนองที่ดินเปล่า จำนวน 1 โฉนด บริเวณซอยรัชดาภิเษก 36 ถนนรัชดาภิเษก มูลค่าประเมิน 11.88 ล้านบาท โดยมูลค่าหลักประกันรวม ไม่ต่ำกว่า 1.25 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 10-12 กรกฎาคม 2566 องค์กรและหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้
- เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทและลงทุนซื้อที่ดินสำหรับโครงการใหม่ในอนาคต
- เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ
บมจ.ชีวาทัย (CWTTH)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ซึ่งผู้ออกมีสิทธิไถ่ถอน หุ้นกู้ก่อนกำหนด อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 6.90% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน และ 3-4 กรกฎาคม 2566 องค์กรและหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้
- เพื่อใช้ชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัท ชีวาทัย จกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2564 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2566 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิ์ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน
- เพื่อใช้ลงทุนในการซื้อที่ดิน
- เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND)
คาดว่าออกและเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ หุ้นกู้ดังกล่าวแบ่งออกเป็นดังนี้
- ชุดที่ 1 หุ้นกู้มีประกัน อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 อัตราดอกเบี้ย 7.25% ต่อปี หลักประกัน คือ – ที่ดินจังหวัดระยองมูลค่า 1.84 ล้านบาท – ห้องชุดโครงการ ไฮด์สุขุมวิท11 มูลค่า838.25 ล้านบาท โดยในวันที่ออกหุ้นกู้ผู้ออกหุ้นกู้จะฝากเงินที่ได้จากการออกและเสนอขายได้เข้าบัญชีหลักประกันเพื่อใช้ชำระหุ้นกู้ GRAND237B ตามมูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขายได้ทั้งจำนวน และผู้ออกหุ้นกู้จะดำเนินการจำนองที่ดินห้องชุดโครงการในมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1.2 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขายได้ ให้กับผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ภายใน7วันนับแต่วันที่ได้ถอนเงินจากบัญชีหลักประกัน
- ชุดที่ 2 หุ้นกู้ไม่มีประกัน อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2568 อัตราดอกเบี้ย 7.40% ต่อปี
- ชุดที่ 3 หุ้นกู้มีประกัน อายุ 1 ปี 3 เดือน ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2567 อัตราดอกเบี้ย 6.90% ต่อปี หลักประกัน คือ -จำนำหุ้นบริษัทโรงแรมรอยัลออคิด(ประเทศไทย) จำกัด มหาชน(“ROH”)มูลค่าไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท โดยมูลค่าหลักประกันรวมจะต้องไม่ต่ำกว่า1.5เท่าของมูลค่าหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายตลอดอายุหุ้นกู้
เปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 11– 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ BB- และหุ้นกู้ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ดังนี้
- 1. เพื่อใช้ชำระหนี้หุ้นกู้มีประกันของบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปีพ.ศ. 2566 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดไถ่ถอน
- เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการของกลุ่มบริษัทและบริษัทร่วม และ/หรือใช้บริหำรเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ