เปิดตัว “อินชัวร์เวิร์ส” บริษัทประกันดิจิทัล 100% TIPH ชูเรือธงบุกอาเซียน

ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์” เปิดตัวอินชัวร์เวิร์ส” บริษัทประกันภัยดิจิทัลแห่งแรกในไทย เจาะลูกค้ามิลเลนเนียลอายุ 25-39 ปี ชี้กำลังเป็นกำลังซื้อหลัก เฟสแรกนำร่องขายประกันรถยนต์ ตั้งเป้าปี’67 เบี้ยประกัน 1,000 ล้านบาท ชูเรือธงบุกอาเซียน

วันที่ 7 กันยายน 2565 นายสมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TIPH) เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัท ทิพย ไอบี จำกัด (TIP IB) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยดำเนินเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท เอราวัณประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยการซื้อหุ้นจำนวน 4.56 ล้านหุ้น คิดเป็น 80% ของหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด โดยซื้อจากผู้ถือหุ้นเดิม

เพื่อเปลี่ยนมาทำธุรกิจประกันภัยดิจิทัลเต็มรูปแบบ ซึ่งปัจจุบันดำเนินการภายใต้ชื่อบริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ Insurverse โดยพอร์ตเดิมทั้งหมดได้ขายให้กับบริษัททิพยประกันภัย

ทั้งนี้บริษัทได้ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 100 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันบริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียนทั้งหมด 620 ล้านบาท

เทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนของธุรกิจประกัน โดยมีพันธกิจในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงได้ง่ายผ่านระบบดิจิทัลเป็นครั้งแรกของบริษัทประกันวินาศภัยที่ให้บริการดิจิทัลเต็มรูปแบบ เพื่อนำเสนอประกันภัยในมุมมองของผู้บริโภคให้สามารถออกแบบความคุ้มครองเฉพาะบุคคล โดยไม่ผ่านนายหน้า ถือเป็นโลกใหม่ของวงการ ที่มีระบบซื้อ การเคลม และการติดตามสถานะครบวงจรบนแพลตฟอร์มออนไลน์

เป้าเบี้ยพันล้านในปี’67

นายกิตตินันท์ ภู่พงศ์พันธ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ Insurverse กล่าวว่า แผนธุรกิจของบริษัทในช่วงเฟสแรก ซึ่งปัจจุบันได้วางขายแล้วคือ ประกันรถยนต์ ประกัน ... และประกันภัยการเดินทาง หลังจากนั้นในช่วงไตรมาส 4/2566 จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น อาทิ ประกันภัยอุบัติเหตุ ประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยสัตว์เลี้ยง และประกันภัยไซเบอร์ เป็นต้น โดยจะเน้นขายเฉพาะสินค้าในกลุ่มประกันภัยรายย่อย (Personal Line)

จุดเด่นของ Insurverse คือ การให้อำนาจลูกค้าคอนโทรลความคุ้มครองได้เองโดยไม่ผ่านนายหน้า สามารถปรับความคุ้มครองจนกว่าจะพอใจและเหมาะสมกับงบประมาณที่มี ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความยืดหยุ่น มีเทคโนโลยี OCR ลดการกรอกข้อมูลที่ยุ่งยาก มีหน้าตาเว็บไซต์ออกแบบให้เข้าใจง่าย เพื่อให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดี ซื้อประกันเพียงไม่กี่นาที มีช่องทางชำระเงินออนไลน์

โดยลูกค้าได้รับความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งการเคลมและเช็กสถานะการเคลมบบเรียลไทม์ผ่านวิดีโอคอล และเร็ว นี้จะให้บริการเคลมรถยนต์ผ่านแอป Insurverse อนุมัติไวภายใน 1 วันทำการ ด้วยระบบดิจิทัลที่ช่วยให้อนุมัติการเคลมเร็วขึ้นนายกิตตินันท์กล่าว

ทั้งนี้บริษัทค่อนข้างให้ความสำคัญกับการเคลม ดังนั้นสำหรับประกันภัยรถยนต์ จะมีบริการที่ลูกค้าดำเนินการเคลมด้วยตัวเอง หรือผ่านวิดีโอคอล หรือโทร.แจ้งให้เจ้าหน้าที่ออกไปยังจุดเกิดเหตุได้ หลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ ลูกค้าสามารถนำรถเข้าอู่ในเครือ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย และพิเศษกว่านั้นจะมีระบบคำนวณค่าซ่อมให้ หากลูกค้ามีความประสงค์จะไปซ่อมเองสามารถเลือกขอรับเป็นเงินสดได้

สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายหลักคือ คนรุ่นใหม่กลุ่มมิลเลนเนียล ที่มีอายุระหว่าง 25-39 ปี ที่คุ้นชินกับการใช้ดิจิทัลเป็นอย่างดี และให้ความสำคัญกับการเลือกและปรับแต่งผลิตภัณฑ์เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ซึ่งกำลังจะเป็นกำลังซื้อหลักในอนาคต

ภายในสิ้นปี 2566 ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับ 300 ล้านบาท และในปี 2567 จะมีเบี้ยประกันภัยรับแตะระดับ 1,000 ล้านบาท มีฐานลูกค้าประมาณ 300,000 ราย โดยสำหรับเฟสแรกที่ขายประกันรถยนต์ จะเน้นเจาะโมเดลรถญี่ปุ่นหรือรถกลุ่ม mass และจะไม่รับประกันรถบรรทุกหรือรถซูเปอร์คาร์ แต่หากลูกค้ามีความสนใจ ทางบริษัทจะให้บริษัททิพยประกันภัยเข้าไปรับประกันแทน

สำหรับสัดส่วนพอร์ตการรับประกัน ในเบื้องต้นการประกันรถยนต์จะใหญ่สุด มีสัดส่วนประมาณ 80% ที่เหลืออีก 20% เป็นสินค้าในกลุ่มน็อนมอเตอร์ แต่อย่างไรก็ดี ในอนาคตคาดหวังบาลานซ์พอร์ตสองส่วนนี้อยู่ในระดับ 50 : 50%

เรือธงบุกอาเซียน

นายสมพรกล่าวเพิ่มว่า เมื่อทางบริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจไปได้อย่างน้อยประมาณ 2 ปี จะเป็นบริษัทเรือธงในการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคอาเซียนต่อไป โดยโฟกัสในกลุ่ม CLMV ก่อน

“ขอให้ลูกค้าเชื่อมั่นในบริษัทอินชัวร์เวิร์ส เพราะอยู่ภายใต้ บมจ.ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ซึ่งมีความมั่นคงและปลอดภัยอย่างแน่นอน”