ก.ล.ต. สั่งปรับ “บิทาซซ่า-Merkle” เหตุทำผิดกฎ พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล

บิตคอยน์-SEC-ก.ล.ต.

ก.ล.ต. สั่งปรับ “บิทาซซ่า-Merkle” รวมเป็นเงิน 9.16 แสนบาท เหตุทำผิดกฎ พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล ตามมาตรา 30 และมาตรา 31

วันที่ 24 กันยายน 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานข้อมูลการบังคับใช้กฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2566 ทางคณะกรรมการเปรียบเทียบ ก.ล.ต. ได้ดำเนินการปรับเงินผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 2 ราย รวมจำนวน 916,250 บาท ประกอบด้วย

1.บริษัท บิทาซซ่า จำกัด (Bitazza) เนื่องจากในระหว่างวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2565 และวันที่ 23 ธันวาคม 2565 บิทาซซ่าในฐานะผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้า ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศกำหนดจำนวน 4 วัน

โดยมีสัดส่วนการฝากสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าไว้กับผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล และการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าในระบบที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเมื่อทำธุรกรรมเท่านั้น (cold wallet) ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศกำหนด ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัล มาตรา 30 และมาตรา 31 จึงมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 243,750 บาท

นอกจากนี้ มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับเงิน 292,500 บาท กับ นายกวิน พงษ์พันธ์เดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทาซซ่า จำกัด ซึ่งเป็นบุคคลที่รับผิดชอบในการดำเนินงานของ Bitazza ไม่สั่งการและไม่กระทำการอันเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำ

2.บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด (Merkle) ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล มีหน้าที่ต้องรายงานผลการการทดสอบการเจาะระบบ (penetration test) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565

แต่ Merkle รายงานผลการทดสอบ penetration test เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 จึงเป็นการรายงานผลล่าช้าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศกำหนด ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัล มาตรา 30 คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 380,000 บาท