บล.กรุงศรีฯ ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ แกว่งตัว 1,410-1,430 จุด ได้บรรยากาศบวกจากคาดการณ์ FED-ECB จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยช่วงกลางปีหน้า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากคาดการณ์การประชุมโอเปกพลัส แต่ฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่ชะลอจะกดดันให้ดัชนีฟื้นตัวในกรอบจำกัด
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีฯ รายงานว่า ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) ดัชนี SET Index เพิ่มขึ้น 4 จุด (+0.25%) ปิดที่ระดับ 1,419 จด จากแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มน้ำมัน โรงกลั่น และปีโตรฯ ตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น แต่ดัชนีปรับขึ้นจำกัดเนื่องจากมีแรงขายหุ้นกลุ่ม Domestic Play อาทิ แบงก์ และ ค้าปลีก ผิดหวังจีดีพีไตรมาส 3/2566 ของไทยโตต่ำคาด
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- ธุรกิจถอยสิ้นยุคกัญชาเสรี จ่อปิดหมื่นร้าน-สินค้าโบกมือลา
- เปิดค่าซ่อม “รถอีวี vs รถใช้น้ำมัน” แพงกว่ากันเท่าไร
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET แกว่งตัว 1,410-1,430 จุด ภาวะตลาดได้บรรยากาศบวกจากคาดการณ์ FED และ ECB จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยช่วงกลางปีหน้า รวมถึงราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากคาดการณ์การประชุมโอเปกพลัสในวันที่ 26 พ.ย. จะปรับลดกำลังการผลิตลงอีก อย่างไรก็ตามฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่ชะลอตัวจะกดดันให้ดัชนีฟื้นตัวในกรอบจำกัด จึงแนะนำเลือกซื้อกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวต่อไป
หุ้นแนะนำวันนี้ PTTEP (ปิด 160 บาท ซื้อ/เป้า 196 บาท มีปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบบวกแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 นักลงทุนดักเก็งกำไรจากหวังการประชุมของกลุ่ม OPEC+ จะมีมติให้ลดกำลังการผลิตเพิ่ม ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นส่งผลดีโดยตรงต่อ PTTEP เนื่องจากเป็น Oil Link Company
และ AUCT (ปิด 10.60 บาท ซื้อ/เป้า 12.80 บาท) ธปท.รายงานภาวะหนี้เสีย (NPL) ในกลุ่มธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ไตรมาส 3/2566 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.1% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 ปี แนวโน้ม NPL ที่สูงขึ้นจะเป็นบวกต่อ AUCT จากปริมาณรถยนต์ยึดที่ไหลเข้าสู่ระบบมากขึ้น หนุนรายได้และกำไรโตต่อเนื่อง อย่างน้อยไปจนถึงกลางปีหน้า
ประเด็นสำคัญ 1.สภาพัฒน์ ประกาศจีดีพีไตรมาส 3/2566 โตลดลงและต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยขยายตัวเพียง 1.5% ชะลอลงจาก 1.8% ในไตรมาส 2/2566 และต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 2-2.2% เป็นผลจากการส่งออก และการใช้จ่ายภาครัฐที่ชะลอตัวลง
ส่วนภาพรวมทั้งปีสภาพัฒน์ลดคาดการณ์ GDP ในปีนี้เหลือโต 2.5% จากเดิม 2.7% และคาดปีหน้าโต 3.2% (ไม่รวมกระเป๋าเงินดิจิทัล) เป็นบรรยากาศลบกับหุ้น Domestic play อาทิ กลุ่มธนาคาร, ไฟแนนซ์
2.น้ำมันดิบบวกแรงกว่า 2 เหรียญ ดักเก็งกำไรคาด OPEC ลดการผลิตเพิ่ม ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.7 เหรียญ (+2.3%) ปิดที่ระดับ 77.6 เหรียญต่อบาร์เรล นักลงทนดักเก็งกำไรคาดหวังการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ที่จะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ (26 พ.ย.) จะมีมติให้ลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมเพื่อพยุงราคาน้ำมันหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีมติให้ลดกำลังการผลิต 3.66 ล้านบาร์เรล ถึงปี 2024
3.พรุ่งนี้ติดตาม FED Minutes คาดกรรมการยังหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่เราไม่ได้กังวลกับประเด็นนี้มากนัก เนื่องจากการประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค. จึงเป็นความเห็นของคณะกรรมการที่ไม่ได้สะท้อนกับภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันที่กำลังลดลง ดังนั้นหาก Fed Minutes จะมีผลในทางลบเราคาดว่าจะเป็นไปอย่างจำกัด