ชงรัฐซื้อประกันภัยกลุ่ม 10 บาท แจกสวัสดิการเพิ่ม”ท็อปอัพบัตรคนจน”

“สภาธุรกิจประกัน” ชงรัฐซื้อ “ประกันภัยกลุ่ม 10 บาท” ท็อปอัพบัตรสวัสดิการคนจน ชูโมเดลแจ๋วหนุนต้นทุนออกกรมธรรม์ต่ำ ลดภาระค่าใช้จ่ายรัฐ ดึงคนไทยรู้จักบริหารความเสี่ยงมากขึ้น ด้าน “คปภ.” เผยยอดลูกค้าทำประกันแล้ว 3-4 แสนราย มั่นใจได้ ปีนี้ทำได้ตามเป้า 1 ล้านฉบับ เบี้ยรับแตะ 10 ล้านบาท

นายอานนท์ วังวสุ ประธานสภาธุรกิจประกันภัยไทย เปิดเผยว่า โครงการประกันภัยกลุ่ม 10 บาท ถือเป็นโมเดลใหม่ที่จะช่วยหนุนให้รัฐบาลนำร่องซื้อความคุ้มครองท็อปอัพ (เพิ่มเติม) เข้าไปในบัตรสวัสดิการคนจนได้ในอนาคต เพราะนอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐได้ค่อนข้างมาก ยังส่งผลให้ประชาชนรู้จักการบริหารความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ซึ่งโมเดลดังกล่าวค่าเฉลี่ยต้นทุนในการออกกรมธรรม์ค่อนข้างต่ำ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายใหญ่สนใจเข้าร่วมแล้วกว่า 9 ราย โดยซื้อความคุ้มครองแถมให้กับลูกค้าของตัวเอง จึงคาดว่าจะมีผู้ประกอบการรายอื่น ๆ สนใจเข้าร่วมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะหนุนให้ฐานระบบประกันภัยขยายตัวดีจนทำให้เบี้ยประกันในอนาคตถูกลงได้

“ปีนี้ถือเป็นปีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นผู้นำสร้างความแตกต่างจากปีก่อน ๆ ตรงที่สามารถเข้าถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ ๆ ที่มีสินค้าและบริการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่หลากหลายมาช่วยปลุกกระแสการซื้อความคุ้มครองให้กับประชาชน และสร้างความตระหนักถึงประโยชน์ของประกันภัยในลูกค้าทุกกลุ่มได้มากกว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมา” นายอานนท์กล่าว

นายอานนท์กล่าวว่า ภาคธุรกิจประกันภัยน่าจะใช้คอนเซ็ปต์นี้ไปพัฒนาต่อยอดโปรดักต์ใหม่ ๆ ออกมาวางขายได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน แม้อาจจะทำกำไรได้ไม่มากนัก แต่บริษัทประกันจะได้ประโยชน์จากการใช้ฐานข้อมูลของผู้ประกอบการเข้าถึงลูกค้าได้กว้างมากขึ้น ซึ่งเป็นมิติใหม่ของวงการประกันที่ได้เปิดขายประกันผ่านช่องทางผู้ประกอบการโดยตรง จากเดิมที่

ประชาชนเข้าถึงประกันภัยผ่านช่องทางตัวแทนนายหน้า, ธนาคารพาณิชย์, เทเลเซลส์, ตลาดแบบตรง, ออนไลน์ เป็นต้น แต่ปัจจุบันนี้ ประชาชนสามารถเข้าถึงประกันได้ที่ เอไอเอส, ปตท., แบล็คแคนยอน, เคาน์เตอร์เซอร์วิส, ทีคิวเอ็ม, เทสโก้ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์, หนังสือพิมพ์ดาราเดลี่, หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น, ออร์ก้า (ประเทศไทย)

“แนวโน้มธุรกิจประกัน จะเห็นภาคธุรกิจพยายามเฟ้นหาพันธมิตรที่มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ และมีแพลตฟอร์มที่น่าสนใจเข้ามาทำงานร่วมกัน เพราะจะเป็นโอกาสให้แต่ละบริษัทเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมหาศาลเพียงแค่ครั้งเดียว”

นางคนึงนิจ สุจิตจร ผู้ช่วยเลขาธิการสายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย สำนักงาน คปภ. กล่าวว่า โครงการประกันภัยกลุ่มถือเป็นโครงการนำร่อง ซึ่งหากได้ผลก็จะขยายโครงการให้ครอบคลุมมากขึ้นต่อไป โดยเป้าหมายแคมเปญวางไว้จำนวน 1 ล้านฉบับ คิดเป็นเบี้ยประกันรวม 10 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการทยอยส่งยอดลูกค้าทำประกันเข้ามาแล้วประมาณ 3-4 แสนราย หรือคิดเป็นเบี้ยรับเกือบ 4 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าช่วงเวลาที่เหลือจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. 2561 นี้ จะมียอดลูกค้าเข้ามาได้ตามเป้าที่วางไว้ได้