BITE SIZE : ปิดฤดูกาล Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีได้เท่าไร

Prachachat BITE SIZE
โดย พฤฒินันท์ สุดประเสริฐ

Easy E-Receipt มาตรการลดหย่อนภาษีผ่านการซื้อสินค้าและบริการ ประจำปีภาษี 2567 เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจไทย ได้สิ้นสุดมาตรการแล้วเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ความสงสัยหนึ่งของผู้เสียภาษีที่ร่วมช็อปปิ้งช่วงมาตรการดังกล่าว คือ ค่าช็อปปิ้งทั้งหลาย ต้องซื้อเท่าไร และลดหย่อนภาษีได้เท่าไร ขึ้นอยู่กับอะไร

Prachachat BITE SIZE สรุปให้ฟัง

Easy E-Receipt ลดหย่อนจริง ได้เท่าไร ?

ค่าลดหย่อนตามมาตรการ Easy E-Receipt คือการนำค่าช็อปปิ้ง กินข้าว ซื้อของ ทั้งที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าต่าง ๆ ที่ร่วมมาตรการ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2567 โดยยื่นตามที่ช็อปจริง สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท แต่การลดหย่อนภาษีจริงจากมาตรการดังกล่าว ขึ้นอยู่กับฐานภาษีและรายได้ของแต่ละบุคคล

หากช็อปปิ้งตามร้านค้าที่ร่วม Easy E-Receipt เต็มโควตา 50,000 บาท จะแบ่งเป็น 2 กรณี คือ

  • หากเงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท ไม่ได้สิทธิลดหย่อนแต่อย่างใด เพราะไม่ต้องจ่ายภาษีอยู่แล้ว
  • หากมีเงินได้สุทธิ ตั้งแต่ 150,001 บาทขึ้นไป ลดหย่อนภาษีได้ตามอัตราภาษี 5-35% ตามระดับเงินได้สุทธิ หรือคิดเป็นตัวเงิน สามารถลดหย่อนภาษีได้ต่ำสุด 2,500 บาท สูงสุด 17,500 บาท กรณีซื้อเต็มเพดาน 5 หมื่นบาท

หากช็อปปิ้งไม่ถึง 50,000 บาท ยังสามารถลดหย่อนได้ แต่การลดหย่อนจะลดลงตามจำนวนเงินที่ช็อปปิ้งและยื่นจริง ตามตารางด้านล่างนี้

ยื่นลดหย่อน Easy E-Receipt ยังไง ?

การยื่นลดหย่อนภาษีตามมาตรการ Easy E-Receipt ต้องใช้ใบกำกับภาษี หรือใบเสร็จ แบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น และบนใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จ ต้องระบุเลขประจำตัวประชาชนและอีเมล์ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ และออกใบกำกับภาษีแบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ วันที่ซื้อสินค้า

ข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ค่าช็อปปิ้งที่จะนำมาลดหย่อน ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของมาตรการและเงื่อนไขของร้านค้า ต้องไม่เป็นรายการที่ไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้ ตามภาพด้านล่างนี้

แต่หากมีรายการที่นำมาลดหย่อนไม่ได้ ปนอยู่ในบิลที่จะใช้สิทธิด้วย จะได้รับสิทธิเฉพาะรายการที่เข้าเงื่อนไขเท่านั้น

45 วัน Easy E-Receipt ร้านค้าเข้าร่วม เฉียดหมื่นราย

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเริ่มต้นรัฐบาลปัจจุบัน มาตรการ Easy E-Receipt ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสนับสนุนผู้ประกอบการร้านค้าเข้าระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ด้วย โดยรัฐบาลมองว่า จะเป็นการขยายฐานภาษีและสนับสนุนการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ภาษีของรัฐบาลในระยะยาว

ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ รัฐบาลคาดการณ์ว่า จะสามารถเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบ 70,000 ล้านบาท และเพิ่มตัวเลขจีดีพี 0.18% แลกกับการที่รัฐสูญเสียการจัดเก็บรายได้เล็กน้อย ประมาณ 10,000 ล้านบาท

ล่าสุด นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร บอกว่า ผลการตอบรับมาตรการดังกล่าว คึกคักพอสมควร มีร้านค้าที่เข้าร่วมมาตรการกว่า 9,000 ราย จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ ประมาณ 10,000 ราย ส่วนตัวเลขการลดหย่อนภาษี ต้องรอสรุปช่วงการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2567 ซึ่งจะยื่นแบบภาษี ช่วงมกราคม-มีนาคม 2568

สำหรับการใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษี The 1 Insight เปิดข้อมูล 5 อันดับสินค้าขายดี ช่วงช็อปลดหย่อน Easy E-Receipt 2567 โดยเป็นข้อมูลระหว่างวันที่ 1-29 มกราคม 2567 มีดังนี้

  • เครื่องฟอกอากาศ +98%
  • เครื่องปรับอากาศ +65%
  • ไดร์เป่าผมและเครื่องหนีบผม +56%
  • โทรศัพท์มือถือ +27%
  • รองเท้ากีฬา +20%

The 1 Insight เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากอันดับสินค้าดังกล่าว จะเห็นได้ว่ามี 2 ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าในช่วงมกราคม 2567 ได้แก่

  • ความจำเป็น หรือเป็นสินค้าที่ควรจะซื้อในช่วงเดือนนี้ อาทิ เครื่องฟอกอากาศและเครื่องปรับอากาศ ที่มีความสำคัญทวีคูณในช่วงเดือนมกราคม 67 ที่วิกฤตมลพิษฝุ่น PM 2.5 กลับมาอีกครั้ง
  • ช่วงราคา โดยกลุ่มสินค้าที่มีราคาสูงกว่ากลุ่มสินค้าประเภทอื่น ๆ อาจให้ความสะดวกในการซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีมากกว่า เรียกได้ว่าใช้จ่ายเพียงไม่กี่รายการก็อาจใกล้ถึงยอดลดหย่อนภาษีสูงสุดได้ สอดคล้องกับการที่ “อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” ขึ้นแท่นเป็นหมวดสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงนี้ ติดอันดับ Top 5 ถึง 4 ใน 5 อันดับเลยทีเดียว

ขณะที่ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้าของคนแต่ละเจนเนอเรชั่น เป็นดังนี้

  • คน Gen X (อายุ 45-59 ปี เกิด พ.ศ. 2508-2522) ผู้บริหารรุ่นใหญ่ เน้น Work-life Balance แต่ความรับผิดชอบเต็มร้อย : มียอดซื้อเติบโตสูงสุดในกลุ่ม “สินค้ากีฬาออกกำลังกาย”
  • คน Gen Y (อายุ 28-44 ปี เกิด พ.ศ. 2523-2539) Middle Management ไฟแรง เป้าหมายมีไว้พุ่งชน : ยอดซื้อเติบโตสูงสุดในกลุ่ม “เครื่องสำอางและน้ำหอม”
  • คน Gen Z (อายุ 21-27 ปี เกิด พ.ศ. 2540-2552) เพิ่งเริ่มทำงานก็ต้องเสียภาษี ตื่นตัวเรื่องลดหย่อนเป็นที่ 1 : มียอดซื้อเติบโตสูงสุดในกลุ่ม “อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์”

ส่วนกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการลดหย่อนภาษีมากที่สุด คือ คน Gen Z ยอดใช้จ่ายโตขึ้นถึง 18% จากปีก่อน ขณะที่คน Gen Y ยอดใช้จ่ายโตขึ้น 6% และคน Gen X โตขึ้น 2%

อย่างไรก็ดี ต้องรอติดตามช่วงวันจ่ายภาษีในต้นปีหน้า จึงจะเห็นตัวเลขชัดเจนว่า มาตรการ Easy E-Receipt สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจไทยได้มากแค่ไหน

ติดตาม Prachachat BITE SIZE EP.42 ได้ที่ https://youtu.be/qjmVD1tUNRk

เข้าใจง่าย ได้ความรู้ ทุกสถานการณ์ข่าว กับ “Prachachat BITE SIZE” ทุกวันเสาร์ 11.00 น. ทุกช่องทางออนไลน์ของประชาชาติธุรกิจ