หุ้นกลุ่ม AI ฟองสบู่หรือโอกาสครั้งสำคัญในรอบศตวรรษ ?

AI
คอลัมน์ : สวภพ ยนต์ศรี
ผู้เขียน : บลจ.ทิสโก้

ปัจจัยที่หนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2023 จนมาถึงปี 2024 ที่ทั้งดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับเพิ่มขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาลได้ ไม่ได้มาจากเพียงแค่ความคาดหวังที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะเปลี่ยนทิศทางมาเป็นขาลงเท่านั้น แต่อีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนหลัก มาจากกระแสการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งเป็นกระแสการลงทุนที่มาแรงที่สุดในยุคปัจจุบัน

โดยผู้ชนะรายแรกในยุคแห่ง AI ก็คือบริษัท Nvidia ที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 281% ในช่วง 1 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มีนาคม 2024) โดย Nvidia ตอกย้ำถึงความสำเร็จกับการมาของ AI ในทุกครั้งที่มีการประกาศผลการดำเนินงานออกมา

ซึ่งถึงแม้ความคาดหวังการเติบโตจากนักวิเคราะห์จะสูงมาก แต่รายได้ที่ออกมาในแต่ละไตรมาสของ Nvidia ก็เป็นเหมือนสิ่งยืนยันทุกครั้งว่าการเติบโตของ Nvidia ที่สะท้อนความต้องการใช้งาน AI ไม่ใช่เพียงแต่เรื่องที่เป็นกระแสแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยในไตรมาสล่าสุดรายได้ของ Nvidia สามารถเติบโตได้ถึง 264%

แต่เหรียญมักมีสองด้านเสมอ แม้จะมีความสำเร็จของ Nvidia มาเป็นสิ่งยืนยันถึงการเติบโตของความต้องการใช้งาน AI แต่หลังจากที่ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็ยังคงมีความเห็นจากนักวิเคราะห์บางส่วนที่พยายามเชื่อมโยงการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้น AI ในยุคปัจจุบันว่าไม่ต่างไปจากฟองสบู่ที่เกิดขึ้นในยุคปี 2000 ที่นักลงทุนรู้จักกันดีในชื่อวิกฤต Dot com Bubble

อย่างไรก็ตาม หากเมื่อพิจารณารายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเทียบกับเหตุการณ์เมื่อช่วงกว่า 25 ปีที่แล้ว จะพบว่าทั้ง 2 เหตุการณ์มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะใน 3 ประเด็นสำคัญที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน

ประเด็นแรก คือระดับ Valuation ที่ย้อนกลับไปเมื่อปี 2000 ระดับ Forward P/E ของดัชนี Nasdaq 100 ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งไปแตะเกือบ 80 เท่า แต่ ณ ปัจจุบันระดับระดับ Forward P/E ของดัชนี Nasdaq 100 อยู่ที่ระดับราว 32 เท่า

นอกจากนี้หากดูที่ระดับ Forward P/E ของหุ้น Nvidia ที่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 ยังอยู่ที่ราว 65 เท่า แต่เมื่อหลังจากนั้นผลการดำเนินงานที่ประกาศออกมามีรายได้และกำไรเติบโตได้ดีในระดับตัวเลข 3 หลัก ส่งผลให้ระดับ Forward P/E ของ Nvidia ลดลงมาเหลือเพียง 32 เท่า สะท้อนให้เห็นว่าระดับ Forward P/E ของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ยังจะมีโอกาสปรับตัวลดลงอีก หากว่าการเติบโตของ AI ส่งผลให้กำไรและรายได้เติบโตได้ดีตามไปด้วย

ประเด็นที่สอง ก็คือเม็ดเงินที่ไหลเข้าลงทุนในหุ้นผ่านกองทุนประเภทกองทุน ETF และกองทุน Equity Fund ในตลาดหุ้นสหรัฐ ในช่วงระหว่างปี 1997-2000 รวมกันสูงถึงราว $946,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ในสถานการณ์ปัจจุบันหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปี 2022 ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีกับตลาดหุ้นมากนัก

เม็ดเงินที่เข้าลงทุนหุ้นผ่านกองทุนประเภทกองทุน ETF และกองทุน Equity Fund ในระหว่างปี 2022-2023 รวมกันแล้วยังติดลบถึง $191,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นความเสี่ยงที่จะเกิดฟองสบู่ขึ้นเหมือนในปี 2000 จึงยังไม่ได้มีสูงมากนักเมื่อดูจากเม็ดเงินที่ไหลเข้าลงทุนในหุ้น

ประเด็นสุดท้าย ก็คือจำนวนบริษัทใหม่ที่นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดฟองสบู่ขึ้นในหุ้นเทคโนโลยีเมื่อปี 2000 เนื่องจากในช่วงดังกล่าวการมาถึงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ หันพากันเปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็นลงท้าย Dot com และนำหุ้นเข้าจดทะเบียน IPO ในตลาดหุ้น และสร้างความหวังให้กับนักลงทุนว่าจะเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จและได้รับประโยชน์จากการมาถึงของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต

โดยตัวเลขบริษัทเทคโนโลยีที่นำหุ้นเข้า IPO ในระหว่างปี 1999-2000 สูงถึง 631 บริษัท ในขณะที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาระหว่างปี 2022-2023 มีบริษัทเทคโนโลยีเพียงแค่ 15 บริษัทเท่านั้นที่นำหุ้นเข้า IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งในปัจจุบันบริษัทส่วนใหญ่ที่จะได้รับประโยชน์จาก AI จะเป็นบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจและมีจำนวนลูกค้าอยู่ในมือแล้ว และสามารถนำ AI มาต่อยอดในการคิดค้นธุรกิจใหม่หรือบริการเสริมที่จะนำเสนอให้ลูกค้าเพื่อสร้างรายได้และการเติบโตใหม่ ๆ ให้กับบริษัท

โดยในช่วงระยะเวลาต่อจากนี้ไม่เพียงแต่จะยังไม่เห็นสัญญาณการเกิดฟองสบู่เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีเมื่อปี 2000 เท่านั้น แต่ศักยภาพในการเติบโตของ AI ยังมีอีกมากเหมือนกับที่ Jensen Huang CEO ของ Nvidia เคยกล่าวไว้ว่า “ศักยภาพของ AI นั้นไร้ขีดจำกัด และในตอนนี้เราพึ่งจะได้เริ่มสัมผัสถึงความสามารถของมันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น”

ดังนั้น หลังจากนี้นักลงทุนควรจะเริ่มพิจารณาหาจังหวะเข้ามาลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตของพอร์ตการลงทุนไปพร้อมกับการเติบโตของ AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบศตวรรษนี้