เปิดวิธีวางแผนมรดก ส่งต่อในยุคดิจิทัล ให้ถูกกฎหมาย-ส่งต่อได้จริง

บิตคอยน์ bitcoin ราคาเหรียญ คริปโต
Photo by Art Rachen on Unsplash
บทความโดย "สุนิติ ถนัดวณิชย์" 
นักวางแผนการเงิน CFP® สมาคมนักวางแผนการเงินไทย

 

วันที่ 26 มีนาคม 2567 ปัจจุบันการจัดการทางการเงิน เช่น การโอนเงินรับจ่าย การลงทุน เข้าสู่ยุคดิจิทัล ที่ต้องใช้ผ่านเครื่องมือ หรือแพลตฟอร์มมากขึ้น  เห็นได้จากสถิติจำนวนบัญชีซื้อขาย Cryptocurrency ในประเทศไทย มีอยู่เกือบ 3 ล้านบัญชี หรือจากสถิติการใช้ Mobile Banking ในไทย

ดังนั้น นักลงทุนต้องมีการปรับตัวหรือเรียนรู้วิธีการจัดการมากขึ้น และเมื่อเจ้าของบัญชีหรือเจ้าของเงินลงทุนเสียชีวิต จะส่งต่อกันอย่างไรในยุคดิจิทัล ให้ถูกกฎหมาย และส่งต่อได้จริง

ในการส่งต่อทรัพย์สินในยุคดิจิทัลมี 2 องค์ประกอบหลักคือ

  1. มีผลทางกฎหมาย
  2. มีผลถ่ายโอนสินทรัพย์ได้จริง

มีผลทางกฎหมาย

มี 2 ทางเลือกย่อย ๆ เพื่อให้มีผลทางกฎหมายคือ ทำให้ผู้รับมรดกเป็นทายาทโดยพินัยกรรม หรือเป็นทายาทโดยธรรม ซึ่งมีหลายบทความกล่าวว่า จะให้ผู้รับมรดกเป็นทายาทโดยพินัยกรรม ต้องทำพินัยกรรม ซึ่งการทำพินัยกรรมให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายมี 5 รูปแบบคือ

  • แบบธรรมดา
  • แบบเขียนด้วยลายมือตนเอง
  • แบบฝ่ายเมือง
  • แบบลับ
  • แบบวาจา

โดยทายาทโดยพินัยกรรมมี (บุริม) สิทธิเหนือกว่าทายาทโดยธรรม การส่งต่อแบบไม่วางแผน จะทำให้ทายาทโดยธรรม ต้องดูหลักเกณฑ์ในการแบ่งทรัพย์มรดก ซึ่งเป็นไปได้สูงว่า ทายาทโดยธรรมอาจจะได้ทรัพย์มรดกแบบไม่เป็นธรรมได้

กล่าวคือ ทายาทที่ดูแลเจ้ามรดกมาตลอดอาจจะได้หรือไม่ได้ทรัพย์มรดกก็ได้ ในขณะที่ทายาทที่ไม่ดูแลก็จะได้ทรัพย์มรดกตามเกณฑ์ของกฎหมาย ดังนั้นทางเลือกดีที่สุดในการส่งต่อทรัพย์สิน คือการทำพินัยกรรม ซึ่งจะช่วยให้ทายาทที่ได้รับมรดกถูกฝา ถูกตัว ถูกใจเจ้ามรดกมากที่สุด

มีผลถ่ายโอนสินทรัพย์ได้จริง

กรณีเป็นสินทรัพย์จับต้องได้ หรือมีทะเบียน เช่น เงินสด เงินฝาก กองทุน บัญชีหุ้นสามัญ เครื่องประดับ ทองคำแท่ง เป็นต้น ก็ยังเป็นสินทรัพย์ที่เห็นด้วยตา หากจะตรวจเช็กว่าครบหรือไม่ สามารถพิจารณาด้วยตาได้ แต่ในยุคดิจทัลที่มีสินทรัพย์มองด้วยตาไม่เห็น หรือต้องใช้ Username Password

เช่น e-Wallet คริปโตเคอร์เรนซี ที่ไม่ได้มีแพลตฟอร์ม ที่ดูแลโดยสถาบันการเงิน จำเป็นต้องมีการส่งต่อ จะจดใส่กระดาษก็ดูไม่ปลอดภัย ถ้าให้เหมาะสมอาจจะเป็นการระบุไว้ใน External Hard Drive หรือ Cloud ต่าง ๆ

กรณีที่แพลตฟอร์มที่ดูแลโดยสถาบันการเงิน ลักษณะการส่งต่อจะคล้าย ๆ กับบัญชีเงินฝาก e-Saving (บัญชีที่ไม่มีสมุดบัญชี) ดังนั้น หากทายาทไม่ทราบ Username Password ก็ยังสามารถระบุได้ว่าใครเป็นทายาท และเจ้ามรดกคือใคร กระบวนการส่งต่อจะคล้าย ๆ บัญชีเงินฝาก

ดังนั้น ประเด็นการส่งต่อในยุคดิจิทัล สำหรับสินทรัพย์ที่จับต้องด้วยตาไม่ได้ จำเป็นต้องส่งต่อ Username Password มิฉะนั้น ทายาทจะไม่ทราบการมีอยู่ของสินทรัพย์ดิจิทัลเลย

ข้อแนะนำสำหรับการส่งต่อสินทรัพย์ Digital

  1. ควรกระจายการส่งต่อในหลายช่องทาง เช่น กระดาษที่จัดเก็บไว้อย่างดี ทาง External Hard Drive หรือ ระบบ Cloud
  2. ช่องทางที่ถูกควบคุมได้จากเจ้าของบัญชี จะส่งต่อทาง External Hard Drive เนื่องจากอยู่ในอุปกรณ์ ซึ่งต้องตรวจสอบอายุการใช้งานให้เหมาะสมกับระยะเวลาส่งต่อ และไม่จำเป็นต้องใช้ WIFI เหมือนกับจัดเก็บใน Cloud และดีกว่าช่องทางจัดเก็บในกระดาษ ซึ่งต้องหาที่จัดเก็บกระดาษที่ใส่ Username Password
  3. รวบรวมไว้ที่ใดที่หนึ่ง หากจำเป็นต้องบอกทายาทหรือคนที่ไว้ใจ จะได้ส่งต่อได้ตามความประสงค์

การส่งต่อทรัพย์สินยังเป็นประเด็นที่ถูกละเลยอยู่จำนวนมาก ไม่ว่าจะมาจากความไม่รู้ หรือมองว่ายังไม่ถึงเวลา เป็นเรื่องไกลตัว แต่การจัดการให้เรียบร้อย จะช่วยลดความขัดแย้งของทายาทได้บ้าง

และยิ่งสินทรัพย์การลงทุนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ต้องมี Username Password หรือต้องแสดงตัวตนว่าเป็นทายาทกับ Platform ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ทำให้การส่งต่อหรือการบอก Username Password มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้สินทรัพย์สูญหายไป หรือยังคงส่งต่อให้ทายาทได้ตามเจตนารมณ์เดิม