บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ GOLD ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 17,800 ล้านบาท ผุดโครงการแนวราบครึ่งปีหลังอีก 20-21 แห่ง มูลค่ารวม 34,000 ล้านบาท คาดตุน Backlog ปีนี้ราว 5,300 ล้านบาท ส่วนแผนขายสินทรัพย์ประเภทสิทธิการเช่าระยะยาวในโครงการเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ให้กับทรัสต์ อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการบันทึกค่าเช่า คาดสรุปความชัดเจนได้ปี 62
นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบัญชีและการเงิน บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ GOLD เปิดเผยในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน “Opportunity Day” ว่า บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2561 ที่ระดับ 17,800 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินงานช่วงไตรมาสแรกสามารถรับรู้รายได้อัตราจากการเช่าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของอาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ (FYI Center) ประกอบกับการเปิดตัวโครงการแนวราบแล้ว 8-9 โครงการ เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยคาดว่าครึ่งปีหลังนี้ตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย.-ธ.ค.61 บริษัทได้เตรียมเปิดโครงการอีก 20-21 โครงการ แบ่งเป็นทาวน์โฮม, บ้านแฝด, บ้านเดี่ยว รวมมูลค่ากว่า 34,000 ล้านบาท และสามารถรับรู้รายได้ (Backlog) ในปีนี้ทันทีราว 5,300 ล้านบาท เนื่องจากโครงการแนวราบสร้างเสร็จสามารถขายและโอนเงินทันที
- อธิบดีราชทัณฑ์ เปิดไทม์ไลน์ บุ้ง ทะลุวัง ก่อนเสียชีวิต
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- กระทรวงเกษตรฯ ปลดล็อกการนำเข้าโคเนื้อ-กระบือจากประเทศเมียนมา
“ก่อนหน้านี้บริษัทได้ตั้งเป้าเปิดโครงการรวม 34 โครงการ ซึ่งปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ 29 โครงการ เนื่องจากว่าบางพื้นที่โครงการติดปัญหาในการสร้างสาธารณูปโภค เช่น สะพาน เป็นต้น ทำให้เกิดความล่าช้าต้องเลื่อนบางโครงการออกไปในปีหน้า” นายสมบูรณ์กล่าว
นายสมบูรณ์กล่าวว่า บริษัทมีแผนขายสินทรัพย์ประเภทสิทธิการเช่าระยะยาวในโครงการเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ (FYI Center) มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท ให้กับทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (GVREIT) ซึ่งมีผู้เช่าส่วนอาคารสำนักงานแล้วกว่า 98% นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการบันทึกค่าเช่า คาดว่าจะสรุปความชัดเจนได้ภายในปี 2562
ทั้งนี้ หากดำเนินการดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์จะทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากขายสินทรัพย์ดังกล่าวเข้ามา และช่วยเสริมให้กองทรัสต์ GVREIT เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผ่านการลงทุนในสิทธิการเช่าทั้ง 3 อาคารที่มีศักยภาพสูงของกรุงเทพฯ ได้แก่ อาคารปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ติดบีทีเอสสถานีเพลินจิต, อาคารสาทรสแควร์ ติดบีทีเอสสถานีช่องนนทรี และเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ติดเอ็มอาร์ทีสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ส่วนพื้นที่เช่าสำนักงานเกรดเอ คาดว่าราคาค่าเช่าพื้นที่จะยังมีการเติบโตต่อเนื่อง และเพื่อรองรับความต้องการในพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่า บริษัทได้พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส “สามย่าน มิตรทาวน์” มูลค่า 8,500 ล้านบาท โดยภายในโครงการแบ่งออกเป็นโซนรีเทลสูง 6 ชั้น พื้นที่ให้เช่ากว่า 36,000 ตร.ม. โซนอาคารสำนักงานมิตรทาวน์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอสูง 31 ชั้น พื้นที่เช่ารวม 48,000 ตร.ม. คาดว่าจะสามารถให้ลูกค้าเข้าไปปรับปรุงได้ช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.2562 ซึ่งบริษัทยังไม่เปิดให้เช่าพื้นที่อย่างเป็นทางการ แต่ขณะนี้มีผู้สนใจเช่าแล้ว 20-30% ส่วนพื้นที่ศูนย์การค้าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจาหาผู้เช่า ซึ่งปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้าคาดว่าแล้วเสร็จเปิดตัวได้ช่วงเดือน ต.ค.2562
