คอลัมน์ ภาวะหุ้นเงินบาท
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (31 ก.ค.-4 ส.ค.) ดัชนีขยับตัวได้เล็กน้อย ต้นสัปดาห์ (31 ก.ค.) ดัชนีปรับตัวลดลง หลังจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งประกาศออกมาราว 23% ของมาร์เก็ตแคปรวม (มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด) มีกำไรสุทธิปรับตัวลดลงถึง 17% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/60 อีกทั้งยังมีเรื่องเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งที่ 2 ทำให้เงินทุนต่างชาติชะลอตัว จนดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,576.08 จุด ลดลง 4.98 จุด หรือ -0.31% มูลค่าการซื้อขาย 57,299.81 ล้านบาท
- จีนแบน 3 บริษัทสหรัฐ ห้ามทำการค้า ห้ามผู้บริหารเข้าประเทศ
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ครม.ไฟเขียว เวนคืนที่ดิน สายไหม-คลองสามวา สร้างทางพิเศษส่วนต่อขยาย
กลางสัปดาห์ (2 ก.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบจำกัด โดยแม้นักลงทุนจะยังคงเข้าเก็งกำไรหุ้นกลุ่มปันผล แต่ก็ไม่ถึงขั้นส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนตลอดทั้งวันคึกคักได้มากนัก ทำให้ดัชนีปิดที่ 1,580.54 จุด เพิ่มขึ้น 4.09 จุด หรือ +0.26% มูลค่าการซื้อขาย 41,737.93 ล้านบาท
ท้ายสัปดาห์ (3 ส.ค.) ดัชนียังคงแกว่งตัวบวกลบสลับกัน และปริมาณการซื้อขายเบาบาง เพราะไม่มีประเด็นใหม่ ส่วนการเมืองในประเทศ เหลือเพียงต้องติดตามกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลยในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ทำให้ตลาดค่อนข้างนิ่งและปิดที่ 1,578.25 จุด ลดลง -2.29 จุด หรือ -0.14% มูลค่าการซื้อขาย 38,579.36 ล้านบาท
ทั้งนี้ในช่วง 4 วันทำการ (31 ก.ค.-3 ส.ค.) นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 550.67 ล้านบาท บริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 2,477.92 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 12,388.49 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 9,359.90 ล้านบาท
ภาวะหุ้นสัปดาห์นี้ (7 ส.ค.-11 ส.ค.) สำนักวิจัยทิสโก้ประเมินว่า ดัชนีจะยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบที่ 1,570-1,585 จุด เพราะในสัปดาห์นี้จะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับปันผล) ของหุ้นใหญ่ เช่น ADVANC-PTTEP ซึ่งน่าจะกดดันบรรยากาศซื้อขาย
ภาวะค่าเงินบาทสัปดาห์ก่อน (31 ก.ค.-4 ส.ค.) เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ต้นสัปดาห์ (31 ก.ค.) เงินบาทเปิดตลาดที่ 33.36/38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากการปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดี (27 ก.ค.) ที่ 33.32/34 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเพราะจีดีพี ไตรมาส 2 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด และในท้ายสุดค่าเงินบาทก็มาปิดตลาดที่ระดับ 33.27/29 บาท/ดอลลาร์
กลางสัปดาห์ (2 ส.ค.) ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ 33.28/30 บาท/ดอลลาร์ฯทรงตัวจากวันอังคาร (1 ส.ค.) ที่ 33.27/29 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันมีตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐปรับตัวดีขึ้น เช่น การใช้จ่ายผู้บริโภค ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ฯลฯ ก่อนค่าเงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 33.27/28 บาท/ดอลลาร์
ท้ายสัปดาห์ (4 ส.ค.) ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 33.24 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากวันก่อน (3 ส.ค.) ที่ระดับ 33.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้เงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากกรณีการสอบสวนความเกี่ยวข้องระหว่างรัสเซียและทรัมป์ ซึ่งน่าจะกดดันให้ดอลลาร์ไม่สามารถแข็งค่าขึ้นในระยะยาว
สัปดาห์นี้ (7-11 ส.ค.) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย คาดกรอบค่าเงินบาทที่ 33.20-33.40 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างสัปดาห์มีตัวเลขทางเศรษฐกิจสำคัญได้แก่ การส่งออก-นำเข้าของจีนในวันอังคาร (8 ส.ค.) หากออกมาดีน่าจะทำให้สกุลเงินในภูมิภาคแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้มีตัวเลขเงินเฟ้อ (11 ส.ค.) ของสหรัฐ หากออกมาดี อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าในระยะสั้น
