นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมภาวะตลาดหุ้นไทยในวันที่ (16 ส.ค.61) ดัชนีค่อนข้างผันผวนพอสมควร มีการปรับตัวลดลงไป 10 กว่าจุด แต่ช่วงท้ายตลาดสามารถขึ้นมาปิดบวกได้ ประเด็นที่ยังคงสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นยังคงเป็นปัจจัยภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุม โดยเฉพาะวิกฤตการณ์ทางการเงินตุรกี (Financial crisis) ที่กดดันในช่วงเช้า แต่ในช่วงบ่ายเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ที่จะมีข้อเสนอการเจรจาเพื่อกระตุ้นให้เกิดความหวังการพักสงครามการค้า หลังจากกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า จีนได้รับเชิญจากสหรัฐเพื่อเจรจาการค้ากับกับนายเดวิด มัลพาส ปลัดกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของสหรัฐ ซึ่งจะช่วย Sentiment ได้ในระดับหนึ่ง
แต่ยังมองว่าความผันผวนน่าจะยังคงมีต่อไปสำหรับในวันพรุ่งนี้จนกว่าปัจจัยภายนอกจะเริ่มสดใสมากขึ้น สำหรับปัจจัยภายในดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีอะไรใหม่ เนื่องจากผลประกอบการที่กำลังจะหมดรอบ เพราะฉะนั้นการเก็งกำไรอาจจะยังน้อย ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติที่ยังเทขายอยู่ ถ้าดัชนีดีดขึ้นไปหลังจากที่ลงมาค่อนข้างมาก โดย P/E ที่ระดับ 15 เท่า ถือว่าราคาไม่ได้แพงมากอาจจะมีแรงซื้อกลับมาบ้าง แต่อัพไซต์อาจจะไม่มาก เพราะปัจจัยภายนอกยังมีความผันผวนอยู่ก็ค่อนข้างยากที่จะขึ้นไปแรง จึงอาจจะมองกรอบค่อนข้างจะจำกัด โดยเคลื่อนไหวบริเวณระดับแนวต้านที่ 1,690-1,700 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,670-1,660 จุด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้เลือก “เก็งกำไร” ประมาณ 30-40% โดย Selective หุ้นรายตัวที่ผลประกอบการออกมาดีและแนวโน้มดีต่อเนื่อง ประกอบกับ Sentiment จากปัจจัยภายนอกกดดันแนะนำหุ้นปันผล และหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
โดยดัชนีฯวันนี้ปิดตลาดที่ 1,680.96 จุด เพิ่มขึ้น 4.67 จุด หรือ +0.28% ขณะที่มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 57,763.90 ล้านบาท
