นายพบชัย ภัทราวิชญ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชียพลัส เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นวันที่ 29 พ.ย.61 ปิดตลาดที่ดัชนี 1,636.49 จุด ลดลง 4.14 จุด หรือปรับลดลง 0.25% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 31,784.09 ล้านบาท โดยภาพรวมของตลาดวันนี้เป็นการพักตัวของดัชนี หลังไม่สามารถเคลื่อนผ่านแนวต้านที่ 1,650 ได้ จึงเห็นแรงขายออกมาในช่วงท้ายตลาด โดยกลุ่มที่ถูกขายออกมาค่อนข้างสูง ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกลุ่มธนาคาร ส่วนหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นมากระจายกันไปในหลายกลุ่ม จึงยังไม่เห็นกลุ่มที่ปรับขึ้นนำตลาด ด้านมูลค่าการซื้อขาย หากยังมีมูลค่าอยู่ในระดับต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท แม้ดัชนีจะยังคงปรับขึ้นแต่คาดว่าจะเป็นการปรับขึ้นที่อยู่ได้ไม่นาน
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุม G20 ในวันพรุ่งนี้ที่จะเกิดการเจรจาการค้าขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะไม่ได้ผลสรุปจากการเจรจาการค้าครั้งนี้ เมื่อไม่สามารถคาดการณ์ได้ชัดเจนจึงเห็นแรงขายออกมาจากนักลงทุน นอกจากนี้ยังต้องติดตามรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หลังประธานเฟดออกมาส่งสัญญาณว่าอาจชะลอการปรับดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
ด้านปัจจัยในประเทศ ประเด็นการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้นหลังคณะกรรมการการเลือกตั้งชี้ว่า หลังกฎหมายเลือกตั้งสส.มีผลบังคับใช้ จะมีการพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจหลังมีกระแสเลื่อนการเลือกตั้งออกมาในช่วงก่อนหน้านี้
ส่วนวันพรุ่งนี้คาดว่าตลาดหุ้นจะยังพักตัวต่อ โดยให้กรอบเคลื่อนไหวดัชนีไว้ที่แนวรับ 1,625 จุด และแนวต้านที่ 1,645 จุด
ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลงและหุ้นวัสดุก่อสร้างที่มีน้ำมันเป็นต้นทุนการผลิต ได้แก่ TASCO SCC และ DCC หุ้นปิโตรเคมี ได้แก่ IRDC และ TOP หุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐ ได้แก่ BJC และ CPALL รวมถึงแนะนำหุ้นปันผลสูงในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ LH และ QH
