หุ้นไทยปิดบวก +17.59 จุด “น้ำมัน-แบงก์” หนุนตลาด

นายพบชัย ภัทราวิชญ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นวันที่ 7 ม.ค.62 ปิดตลาดที่ดัชนี 1,592.72 จุด เพิ่มขึ้น 17.59 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.12% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 44,999.66 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งเป็นผลให้ตลาดปรับขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า หลังวันศุกร์ (4 ม.ค.62) ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกกว่า 700 จุด รวมถึงตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้าวันนี้ (7 ม.ค.62) ค่อนข้างสดใส นอกจากนี้ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่มีขึ้นในวันที่ 4 – 5 ม.ค.62 ประเมินว่าจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้น และด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เริ่มส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต หลัง นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด มีถ้อยแถลงในทิศทางที่ผ่อนคลายลง โดยประเมินว่าเฟดอาจพิจารณาหยุดขึ้นดอกเบี้ย หรือมากกว่านั้นคือการปรับลดดอกเบี้ยลง ส่วนปัจจัยหนุนต่างประเทศท้ายสุด คือ ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 10 เดือน

ในส่วนของตลาดหุ้นไทยวันนี้ กลุ่มน้ำมันปรับขึ้นมานำตลาด เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และกลุ่มธนาคารก็เป็นอีกกลุ่มที่นำตลาดเช่นกัน หลังฟื้นตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ประเมินการเติบโตของจีดีพีปี 2561 ไว้ โดยค่อนข้างมั่นใจว่าระดับการเติบโตจะอยู่ที่ 4 – 4.2% ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ช่วงท้ายตลาดปิดบวกในที่สุด

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.62) คาดว่าดัชนีจะสามารถปรับขึ้นได้ต่อ อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าจะเป็นการปรับขึ้นที่ไม่แรงเท่าวันนี้ โดยประเมินกรอบเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่แนวรับ 1,580 จุด และแนวต้าน 1,600 จุด ทั้งนี้ หากสามารถเคลื่อนไหวผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,600 จุดไปได้ คาดว่าดัชนีอาจปรับขึ้นต่อ หรือปรับลดลงมาเพื่อพักฐานได้ โดยคาดว่าภาพของการเคลื่อนไหวในวันพรุ่งนี้จะเป็นแบบไซด์เวย์อัพ (Sideway Up)

ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำทั้งกลุ่ม “Domestic Play” และกลุ่ม “Global Play” โดยกลุ่ม Domestic Play แนะนำหุ้นกลุ่มค้าปลีก เนื่องจากได้ประโยชน์จากฤดูกาลจับจ่ายใช้สอย กลุ่มธนาคาร ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น โดยประเมินว่าธนาคารจะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยตามดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับขึ้นมา ซึ่งเริ่มเห็นการปรับขึ้นของดอกเบี้ยเงินฝากไปบ้างแล้ว คาดว่าจะเห็นการปรับขึ้นของดอกเบี้ยเงินกู้ตามมา รวมถึงได้รับอานิสงส์จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ และกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มโรงพยาบาล หลังมีข่าวการควบคุมราคายาและอัตราค่ารักษาพยาบาล ราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวได้สะท้อนข่าวลบไปแล้ว จึงคาดว่าจะเห็นการดีดกลับ (Rebound) ขึ้นมาได้ ด้านกลุ่ม Global Play แนะนำกลุ่มพลังงานที่ขึ้นลงตามจังหวะราคาน้ำมันดิบ แนะนำ PTTEP เนื่องจากราคาหุ้นปรับลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว จึงเห็นอัพไซด์ (Upside) เปิด

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!