นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยเช้าวันที่ 23 เม.ย.62 ประเมินว่าดัชนีหุ้นจะแกว่งไซด์เวย์ (Sideway) และระหว่างวันมีโอกาสเคลื่อนไหวติดลบ เนื่องจากปัจจัยบวกที่เข้ามากระทบตลาดยังมีอยู่จำกัด ขณะที่ปัจจัยลบ ได้แก่ การประกาศตัวเลขการส่งออกเดือนมี.ค.62 ติดลบราว 4.9% และการประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารงวดไตรมาส 1/62 ออกมาไม่ค่อยดีนัก ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยนี้สะท้อนว่าทิศทางเศรษฐกิจไทยยังไม่ดีนักและเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้น แม้ว่ารัฐบาลจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือแล้วก็ตาม
ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระทบต่อตลาดหุ้นเช่นกัน มีเพียงปัจจัยราคาน้ำมันดิบโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมองว่าการที่ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจะหนุนให้หุ้นของ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ได้รับประโยชน์ ในทางกลับกันหุ้นของธุรกิจที่มีน้ำมันเป็นต้นทุนอาจได้รับผลกระทบเชิงลบ นอกจากนี้ เมื่อวาน (22 เม.ย.62) นักลงทุนมีการขายทำกำไรกันออกมา ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเมื่อวานนี้ปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือน ก่อนปรับตัวลงมาปิดลบ ดังนั้น จึงมองภาพรวมตลาดหุ้นในช่วงนี้ว่าอาจมีภาพไม่ดีนัก โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีวันนี้ไว้ที่บริเวณแนวรับ 1,670 จุด และแนวต้านที่ 1,680 จุด
ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “Selective Buy” หรือเลือกลงทุนเป็นรายตัว รวมถึงแนะนำ “Hold” หรือถือหุ้นเอาไว้ก่อน แม้จะมีมุมมองว่าทิศทางของดัชนีอาจมีโอกาสแกว่งขึ้นไซด์เวย์ (Sideway Up) เนื่องจากได้รับแรงหนุนปัจจัยภายนอกที่เริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะปัจจัยข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และปัจจัยภายในคือ หลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่คาดว่าจะเห็นนโยบายเศรษฐกิจและนโยบายกระตุ้นการบริโภคออกมาช่วยหนุนเศรษฐกิจอีกแรงหนึ่ง
