ยอดค้าปลีกพุ่งหนุนดอลลาร์แข็งค่า ตลาดจับตาผลประชุมเฟด

ยอดค้าปลีกพุ่งหนุนดอลลาร์แข็งค่า ขณะตลาดยังคงจับตาดูผลการประชุมเฟด
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (16/9) ที่ระดับ 30.50/52 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (13/9) ที่ระดับ 30.41/42 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.8% ในเดือน ก.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% โดยได้แรงหนุนจากยอดขายยานยนต์, วัสดุก่อสร้าง, ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และงานอดิเรก ทั้งนี้ยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นอาจบ่งชี้ว่า ปริมาญการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคจะยังคงช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัว รวมทั้งช่วยลดความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดว่ามีโอกาสเกือบถึง 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% จากระดับ 2.00-2.25% ในปัจจุบัน ในการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 17-18 ก.ย. ซึ่งและมีโอกาส 65% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้

ขณะเดียวกันวานนี้ นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงงานน้ำมันของซาอุดิอาระเบียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลลบต่ออุปทานพลังงานในตลาดโลก และส่งผลให้ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.47-30.53 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.50/52 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (16/9) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1072/74 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (13/9) ที่ระดับ 1.1100/02 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังจากแข็งค่าขึ้นติดต่อกันหลังผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ตลาดยังคงจับตาดูความคืบหน้าของการแยกตัวของอังกฤษจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างใกล้ชิด โดยระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1065-1.1091 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1065/67 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (16/9) เปิดตลาดที่ระดับ 107.65/67 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (13/9) ที่ระดับ 107.96/98 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ จากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงงานน้ำมันของซาอุดิอาระเบียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันตลาดยังคงจับตาดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพฤหัสบดีนี้ (19/9) ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 107.48-107.93 เยน/
ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 107.88/90 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิต เดือน ก.ยงจากเฟดนิวยอร์กสหรัฐ (16/9), ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือน ก.ย.จากสถาบัน ZEW ยูโรโซน (17/9), การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. สหรัฐ (17/9), ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือน ส.ค. ญี่ปุ่น (18/9), อัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. อังกฤษ (18/9), การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) (18/9, การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) (19/9) , การประชุมนโยบายการเงินธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) (19/9), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐ (19/9), ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน ส.ค.จาก Conference Board สหรัฐ, ยอดขายบ้านมือสองเดือน ก.ค.สหรัฐ (19/9), อัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ญี่ปุ่น  (20/9), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ส.ค.เยอรมนี (20/9) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือน ก.ย.ยูโรโซน (20/9)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.7/-1.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -2.0/-0.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ