คลังงัดมาตรการสินเชื่อพยุงเศรษฐกิจ รับมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ

คลังงัดมาตรการด้านสินเชื่อพยุง ศก. รับมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ “สมคิด” แย้มมาตรการเข้า ครม. เน้นกระตุ้นบริโภค-ดึงนักลงทุน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business) ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลัง สามารถทำได้ในรูปแบบการพิจารณาการกระตุ้นการบริโภคให้ประชาชนออกไปจับจ่ายใช้สอย เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น รวมถึงให้นักลงทุนเข้ามามากขึ้น ขณะที่การดูแลเรื่องการส่งออกเป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นกำกับดูแล อย่างไรก็ดี การดูแลเศรษฐกิจภายในประเทศมีความเกี่ยวข้องกันมากกว่าการส่งออก โดยประกอบด้วยค่าครองชีพ การเบิกจ่ายภาครัฐ รวมทั้งการช่วยเหลือเกษตรกร เป็นต้น ฉะนั้น เครื่องยนต์เหล่านี้ทุกตัวจะต้องเดินไปข้างหน้า

ขณะที่การดูแลเศรษฐกิจอีกด้านนั้น จะต้องไปถามรายละเอียดจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหน่วยงานอื่นก็พยายามทำกัน ซึ่งแต่ละกระทรวงก็มีหน้าที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจแตกต่างกัน เช่น กระทรวงการคลังไม่ได้มีหน้าที่ดูแลเรื่องการส่งออก แต่ก็ยังมีการหารือร่วมกันต่อเนื่อง

สำหรับที่ผ่านมากระทรวงการคลังมีแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งในส่วนของการท่องเที่ยว การส่งออก พร้อมกันหลายๆ ทาง แต่ขณะนี้เหมือนมาตรการที่ออกมาในช่วงนี้เหมือนทำขาเดียว คาดว่าจะพอหรือไม่ เนื่องจากมองว่าไม่เป็นเอกภาพในการดูแลเศรษฐกิจ นายสมคิด กล่าวว่า ที่ผ่านมามีทั้ง 4 ขา ตอนนี้มีขาเดียว จากกระทรวงการคลังเท่านั้น อย่างไรก็ดี ทุกอย่างยังทำงานร่วมกัน ส่วนรายละเอียดของการออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจในแต่ละด้านนั้น จะต้องถามจากทุกกระทรวง

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการที่เตรียมเสนอเข้าครม. นั้น จะต้องดูในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านที่มีความจำเป็น เพื่อให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน ขณะเดียวกันก็จะต้องช่วยให้ประชาชนเข้าถึงในสิ่งที่ดี ส่วนเรื่องของการลงทุนของผู้ประกอบการดูแลกันทั้งรายกลางและรายเล็กก็ยังเป็นประเด็นอยู่ ซึ่งหากจะออกมาตรการก็จะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม อย่างไรก็ดี จะออกมาตรการมาดูแลเศรษฐกิจในรูปแบบใดนั้น ขอให้ขั้นตอนเรียบร้อยก่อน ซึ่งจะมีการชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง

ขณะที่กระทรวงการคลังก็ทำหน้าที่ภายใต้หน่วยงานที่รับผิดชอบส่วนหนึ่ง ซึ่งก็มีออกมาตรการออกมาดูแลเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี กระทรวงอื่นๆ ก็ทำหน้าที่และรับผิดชอบเช่นกัน ซึ่งหากจะให้ชี้แจงลงรายละเอียดการทำงานของกระทรวงอื่น กระทรวงการคลังก็ไม่สามารถตอบแทนได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่ามีการทำร่วมกัน

“ส่วนการติดตามการประเมินเศรษฐกิจนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังก็มีการติดตามและประเมินเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การปฏิบัติงานในเชิงออกมาตรการอื่นๆ จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง อย่างไรก็ดี มีการหารือร่วมกันในคณะรัฐมนตรี (ครม.)เศรษฐกิจ ทั้งเรื่องของการส่งออก การดูแลการบริโภค เพียงแต่ในทางปฏิบัติก็ต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทำหน้าที่ไป” นายอุตตม กล่าว

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และนายอุตตม สาวยานนพร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (DOING BUSINESS) ในปี 2563 ได้ตั้งเป้าหมายให้ไทยขยับอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจสู่ 1 ใน 20 อันดับ ซึ่งมั่นใจว่าสามารถทำได้ แม้ว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่ไทยจำเป็นต้องพัฒนา อย่างเช่น เรื่องการค้าระหว่างประเทศ แม้ที่ผ่านมาประเทศไทยมีการกับกำดูแลตลอด แต่ก็ยังไม่สามารถสื่อไปถึงผู้ใช้ และจะต้องทำให้ธนาคารโลกมั่นใจว่าไทยสามารถทำได้

นอกจากนี้ ได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ทำให้คนไทยรู้ว่าความยากง่ายในการทำธุรกิจสำคัญอย่างไร ไม่ใช่แค่การทำธุรกิจ แต่ยังมีความสำคัญในเชิงธุรกิจและสังคม โดยการลงทุนจากต่างประเทศได้ให้ความสำคัญกับการจัดอันดับดังกล่าว อย่างไรก็ดี เชื่อว่าถ้าไทยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนนี้ได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความลื่นไหลในการทำธุรกิจ เศรษฐกิจดีขึ้น ผลประโยชน์ที่มีต่อประชาชน เวลาติดต่อราชการก็ง่ายขึ้น อุปสรรคในอดีตจะหมดไป

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในวันที่ 26 พ.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.นี้เป็นต้นไป เพื่อรักษาโมเมนตัมการเติบโตของเศรษฐกิจปลายปี

อย่างไรก็ดี ขณะนี้รัฐบาลมีข้อจำกัดจากกรณีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ล่าช้า จึงไม่สามารถริเริ่มโครงการใหม่ที่ต้องใช้งบประมาณได้ ดังนั้นมาตรการที่เกี่ยวข้อง ก็จะเป็นมาตรการทางด้านสินเชื่อเป็นหลัก วงเงินราว ๆ 5 หมื่นล้านบาท

“สำหรับการพักหนี้ 1 ปี จะเป็นการพักหนี้ในส่วนลูกหนี้ของกองทุนหมู่บ้าน หลังจากครั้งก่อนเคยพักให้ตัวกองทุนหมู่บ้านไปแล้ว” แหล่งข่าวกล่าว