หุ้นไทยรีบาวด์ตามหุ้นโลก แกว่งในกรอบจำกัด 1,545-1,570 จุด หวั่นขึ้นค่าแรงกดดันตลาด

หุ้นไทยรีบาวด์ตามหุ้นโลกหลังดาวโจนส์บวก 330 จุด รับตัวเลขจ้างงานสหรัฐสดใส คาดหวังเจรจาการค้า “สหรัฐ-จีน” หลังมีข่าวจีนจะยกเว้นขึ้นภาษี “ถั่วเหลือง-เนื้อหมู”บางรายการจากสหรัฐ ด้านที่ประชุมกลุ่มโอเปกลดกำลังการผลิตเพิ่มอีก 5 แสนบาร์เรลต่อวัน หนุนหุ้นพลังงาน-ปิโตรพุ่ง สอดรับราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 3 เดือน หวั่นการขึ้นค่าแรง 5-6 บาทต่อวันทั่วประเทศของกดดันเซนติเมนต์ตลาดหุ้นไทย แกว่งกรอบจำกัดที่ 1,545-1,570 จุด ไม่หแนะนำเทรดดิ้งระยะสั้น

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันที่ 9 ธ.ค.62 ว่า วันนี้มองตลาดมีโอกาสรีบาวด์ตามเซนติเมนต์หุ้นโลกที่เป็นบวก หลังดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นมากกว่า 330 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่สดใส และมีความหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ภายหลังมีข่าวว่าจีนมีการระบุว่าจะยกเว้นการขึ้นภาษีสินค้าถั่วเหลืองกับเนื้อหมูบางรายการจากสหรัฐ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าปริมาณเท่าไร นอกจากนี้ที่ประชุมกลุ่มโอเปกก็มีการลดกำลังการผลิตเพิ่มอีก 5 แสนบาร์เรลต่อวัน ก็น่าจะเป็นผลดีกับหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ตามทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 3 เดือน โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปรับตัวขึ้นกว่า 77 เซนต์ มาอยู่ที่ระดับ 59.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทั้งนี้อาจจะยังมองกรอบการฟื้นตัวค่อนข้างจำกัดจากข่าวการขึ้นค่าแรง 5-6 บาทต่อวันทั่วประเทศ ที่เป็นแรงกดดันต่อเซนติเมนต์ของตลาด โดยมองกรอบเคลื่อนไหว บริเวณแนวรับ 1,545-1,550 จุด ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 1,570 จุด (+-) โดยอาจจะต้องรอความชัดเจนว่าข้อตกลงทางการค้าจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 15 ธ.ค.นี้หรือไม่ ที่จีนกับสหรัฐจะมีการขึ้นภาษีระหว่างกัน และรอดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในสัปดาห์นี้ด้วย

กลยุทธ์ลงทุนช่วงนี้ยังไม่แนะนำการเทรดดิ้งระยะสั้น แนะนำเป็น Wait and See ไปก่อน แต่ถ้าเกิดลงทุนเป็นรอบหวังผลช่วงต้นปีหน้าหรือ 3-4 เดือนข้างหน้า ก็แนะนำทยอยสะสมได้ เน้นหุ้นขนาดใหญ่และหุ้นปันผล