ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักวิเคราะห์ตลาดการเงินและการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (19 ก.พ.) ที่ระดับ 31.17 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.21 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 31.13-31.23 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ในช่วงคืนที่ผ่านมา แม้ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างตลาดหุ้น NASDAQ ยังคงรักษาฐานไว้ได้ แต่ความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ส่งผลกระทบให้นักลงทุนยังไม่คลายความกังวลกับภาคการผลิตทั่วโลก
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
ซึ่งดัชนี S&P 500 ของสหรัฐ และ Euro Stoxx 50 ของยุโรป จึงปรับตัวลดลง 0.3% และ 0.4% ตามลำดับ ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ 10 ปี ก็ทยอยปรับตัวลงทุกวันจนตอนนี้ซื้อขายที่ระดับ 1.56% ขณะที่ยีลด์ในหลายประเทศในยุโรป ก็ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบสัปดาห์
“ภาพดังกล่าว ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทองคำ สังเกตได้จากที่ล่าสุดราคาทองปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ1600 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้ว” ดร.จิติพลกล่าว
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอย่างยูโรหรือเยนอาจดูไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เชื่อว่าเกิดจากมุมมองของนักลงทุนส่วนใหญ่ว่าความเสี่ยงของตลาดในปัจจุบัน กระทบกับในฝั่งเอเชียและยุโรปมากกว่าฝั่งอเมริกา
ดร.จิติพล กล่าวอีกว่า ในส่วนเงินบาท ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แม้ล่าสุดบอนด์ยีลด์ไทยจะทำสถิติต่ำสุดใหม่ทุกวัน และในปัจจุบันบอนด์ยีลด์ไทยอายุ 10 ปีอยู่ที่ระดับ 1.15% เท่านั้น แต่ประเด็นดังกล่าวดูจะไม่ได้เป็นเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรด้วยการขายเงินบาทมากเหมือนช่วงต้นปี เชื่อว่าเกิดจากที่ผู้ค้าในตลาดตีความว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะหันไปใช้นโยบายดอกเบี้ยมากกว่าเข้าแทรกแซงค่าเงินโดยตรงในอนาคต
“ในระยะต่อไปจึงต้องติดตามภาพรวมความเสี่ยงของตลาด (Risk Sentiment) ซึ่งถ้ามีความชัดเจนมากขึ้นว่าเรื่องไวรัสดีขึ้นหรือแย่ลง ก็น่าจะสามารถเปลี่ยนเทรนด์ค่าเงินบาทและสกุลเงินเอเชียได้” ดร.จิติพลกล่าว