ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,155-1,165 จุด ตามเซนติเมนต์ราคาน้ำมันดิบพุ่ง 25% หลังมีข่าวซาอุฯ-รัสเซียเห็นพ้องเจรจาเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน คาดลดการผลิตครั้งใหญ่ 10-15 ล้านบาร์เรล หวังประชุม ครม.นัดพิเศษออกมาตรการระยะ 3-ออก พ.ร.ก.กู้เงินคาดวงเงินจะสูงถึง 1 ล้านล้านบาท เพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า บล.กรุงศรีฯ เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 เม.ย.63 ว่า มีมุมมองเป็นบวก คาดดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,155-1,165 จุด ก่อนจะสลับอ่อนตัวตามเซนติเมนต์เชิงบวกราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแรงราว 25% หลังประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อว่ารัสเซียและซาอุฯ จะยุติสงครามราคาน้ำมัน และคาดว่าจะปรับลดการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ราว 10-15 ล้านบาร์เรล เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน
- จีนแบน 3 บริษัทสหรัฐ ห้ามทำการค้า ห้ามผู้บริหารเข้าประเทศ
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ครม.ไฟเขียว เวนคืนที่ดิน สายไหม-คลองสามวา สร้างทางพิเศษส่วนต่อขยาย
ประกอบกับความคาดหวังในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษวันนี้ จะออกมาตรการระยะ 3 รวมถึง พ.ร.ก.กู้เงิน ที่คาดว่าวงเงินจะสูงถึง 1 ล้านล้านบาท เพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะสลับอ่อนตัวลง จากความกังวลของสถานการณ์การแพร่ระบาดของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งขึ้นเป็น 1 ล้านราย และเสียชีวิต 5.1 หมื่นราย อีกทั้งยังกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจให้ถดถอยโดยสะท้อนได้จากยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐอเมริกาพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.6 ล้านราย ซึ่งจะเป็นความกังวลต่อทิศทางตลาด
มองกรอบแนวรับที่ 1,135-1,125 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,155-1,165 จุด กลยุทธ์ระยะสั้นซื้อเก็งกำไรแนวต้าน โดยสามารถถือหุ้นต่อได้หาก SET ไม่ปิดต่ำกว่า 1,125 จุด และระยะกลางถึงระยะยาว ถือหุ้นเพื่อรอขายบริเวณ 1,165 จุด ยกเว้น SET หลุด 1,100 จุด ให้ลดพอร์ตลง
