SCGP เคาะราคาขายหุ้นไอพีโอ 35 บาท คาดเข้าตลาดวันแรก 22 ต.ค.

SCGP ราคา IPO เข้าตลาด
วิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอสซีจี แพคเกจจิ้ง หรือ SCGP

เอสซีจี แพคเกจจิ้ง หรือ SCGP เคาะราคาเสนอขายไอพีโอ 35 บาทต่อหุ้น คาดเข้าเทรด SET วันแรก 22 ต.ค.นี้

“เอสซีจี แพคเกจจิ้ง” เคาะราคาเสนอขายสุดท้ายหุ้น IPO ที่ 35.00 บาทต่อหุ้น หลังนักลงทุน “รายย่อย-สถาบัน” แห่จองซื้อมากกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้ ชูศักยภาพผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน และแผนงานขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนเพื่อรับประโยชน์จากเมกะเทรนด์การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในภูมิภาคนี้ คาดเข้าเทรดวันแรกใน SET วันที่ 22 ต.ค.นี้

นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ได้กำหนดช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายแก่ประชาชนเป็นการทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 33.50-35.00 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ วันที่ 1-2 และ 5 ตุลาคม 2563 ได้เปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อที่ราคา 35.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้น พร้อมทั้งสำรวจความต้องการซื้อหุ้น IPO ของนักลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) พบว่าได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม โดยนักลงทุนสถาบันแสดงความต้องการซื้อที่ช่วงราคาเสนอขายสูงสุดคือ 35.00 บาทต่อหุ้น และมีความต้องการจองซื้อมากกว่าจำนวนหุ้น IPO ที่จัดสรรไว้ จึงกำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) หุ้น IPO ที่ 35.00 บาทต่อหุ้น

นางสาววีณา กล่าวว่ามั่นใจว่าราคาดังกล่าวสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานและศักยภาพของ SCGP ที่เป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน โดยภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการเสนอขายหุ้น IPO คาดว่าจะนำหุ้น SCGP เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประมาณวันที่ 22 ตุลาคมนี้

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ SCGP ครั้งนี้ มีจำนวนไม่เกิน 1,127.6 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 26.5 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ (ไม่รวมหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน อาจใช้สิทธิซื้อหุ้น IPO จากบริษัทฯ ในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)

นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over Allotment) จำนวนไม่เกิน 169.1 ล้านหุ้น รวมคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 29.3 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ (กรณีที่ใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินทั้งจำนวน)

โดยในการเสนอขายหุ้น IPO แก่นักลงทุนรายย่อย และการสำรวจความต้องการซื้อหุ้น IPO ของนักลงทุนสถาบันที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีมากและเป็นนักลงทุนสถาบันที่มีคุณภาพ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในโมเดลธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรของ SCGP ที่เป็นผู้นำบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน และมีแผนงานขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

แผนขยายธุรกิจ SCGP

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP กล่าวว่า บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ขยายธุรกิจ ชำระเงินกู้และเป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยวางแผนขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมุ่งนำเสนอบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคได้อย่างหลากหลาย

พร้อมทั้งมุ่งคิดค้นและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่

ในด้านแผนงานขยายการลงทุนนั้น จะมีทั้งโครงการที่ SCGP ขยายการลงทุนเอง และเข้าควบรวมกิจการ (Merger & Partnership) โดยในปี 2563 บริษัทฯ ได้เจรจาและลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Bien Hoa Packaging Joint Stock Company (SOVI) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกรายใหญ่ในเวียดนามที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์

นอกจากนี้ SCGP ยังมีโครงการขยายกำลังการผลิตในประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ รวม 4 โครงการ ใช้งบลงทุนรวมประมาณกว่า 8,200 ล้านบาท จะทยอยแล้วเสร็จในปี 2563-2564 และอยู่ระหว่างศึกษาโอกาสขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง