เงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 30.78 บาท/ดอลลาร์ หลัง “เฟด” คง ดอกเบี้ย-ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าเอเชีย
ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส Chief Investment Office บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (6 พ.ย.) ที่ระดับ 30.78 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.88 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบเงินบาทระหว่างวันอยู่ที่ 30.70-30.90 บาทต่อดอลลาร์
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ทั้งนี้ ตลาดการเงินยังคงสดใสในช่วงคืนที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐ และ ดัชนี STOXX 600 ของยุโรปต่างปรับตัวบวกขึ้น 1.9% และ 1.0% โดยมีผลการเลือกตั้งสหรัฐที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ
ส่วนนโยบายการเงินก็มีแนวโน้มผ่อนคลายต่อเนื่อง ล่าสุดผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เมื่อคืนก่อนตัดสินใจ “คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่กรอบ 0.00-0.25% ด้วยมติเป็นเอกฉันท์ตามคาด ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุสองปีและสิบปีทรงตัวที่ระดับ 0.14% และ 0.76% ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน
ส่วนในฝั่งเศรษฐกิจ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ในสหรัฐ (U.S. initial jobless claims) ปรับตัวลงน้อยกว่าคาดที่ระดับ 7.51 แสนตำแหน่ง และมีผู้ขอรับสวัสดิการสะสมปัจจุบัน 7.2 ล้านคน ชี้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่มีโจทย์ใหญ่คือการฟื้นตลาดแรงงานให้กลับไปได้เท่ากับช่วงก่อนหน้าวิกฤตโควิด
ด้านตลาดเงินซื้อขายบนกระแสการอ่อนค่าของดอลลาร์ต่อเนื่องถึง 1.1% Dollar Index อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาที่ 1946 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมกับราคาบิทคอยน์ที่กระโดดขึ้นแตะ 15,700 ดอลลาร์
“ฟากเงินบาทในระยะสั้นก็ทยอยแข็งค่าตามสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ โดยเช้านี้แข็งค่าหลุดระดับ 30.80 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม ประเด็นที่ต้องติดตามต่อไปคือทิศทางของตลาดการเงินเอเชียว่าจะสามารถฟื้นตัวนำหน้าข่าวการเลือกตั้งได้นานแค่ไหน” ดร.จิติพลกล่าว