ลุ้นหุ้นไทยทดสอบแนวต้าน 1,560 จุด อานิสงส์วุฒิสภาสหรัฐไฟเขียวแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อ อานิสงส์วุฒิสภาสหรัฐไฟเขียวแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญ-ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น ลุ้น SET ทดสอบแนวต้านใหญ่ 1,560 จุด หากผ่านได้อาจเข้าสู่สภาวะ Strong Bullish ไปถึง 1,590-1,600 จุด จับตาภาคท่องเที่ยวเสนอรัฐเลิกกักตัวแล้วทำวัคซีนพาสปอร์ต

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 มี.ค. 2564) ว่า คาดดัชนี SET เช้านี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อ หลังสัปดาห์ก่อนปรับตัวแกร่งเหนือภูมิภาค โดยคาดได้อานิสงส์เชิงบวกต่อเนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่เป็นเซ็กเตอร์ใหญ่ของตลาดตามการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบจากกรณีที่ประชุม OPEC+ มีมติไม่เพิ่มกำลังการผลิตจนถึงเดือน เม.ย.64 อีกทั้งเซนติเมนต์บวกของตลาดสหรัฐหลังสภาสูงผ่านมาตรการ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์

จึงคาดว่าเช้านี้ SET INDEX มีลุ้นปรับตัวขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านใหญ่ที่ 1,560 จุด ในกรอบระหว่าง 1,540-1,560 จุด ซึ่งหากสามารถผ่านไปได้ อาจเข้าสู่สภาวะ Strong Bullish ไปถึง 1,590-1,600 จุด

กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองและคลายมาตรการคุมเข้มช่วงสงกรานต์ และหุ้นกลุ่มธนาคารที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์)

ที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติ 50:49 เสียงอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไบเดนวงเงินกว่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ หลังประชุมกันนานกว่า 27 ชั่วโมง ซึ่งส่วนสำคัญได้แก่วงเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 1,400 ดอลลาร์ การเพิ่มสวัสดิการว่างงาน งบหนุนการจ้างงานแก่รัฐบาลท้องถิ่น และงบประมาณในการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 แต่ไม่รวมการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง

เนื่องจากใช้กระบวนการผ่านแบบ Budget Reconciliation ที่ไม่สามารถใช้กับกฎหมายที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับงบประมาณ โดยจากนี้วุฒิสภาจะส่งกลับให้สภาผู้แทนราษฎรอนุมัติอีกครั้งสัปดาห์หน้า แล้วให้ไบเดนลงนาม ก่อนวันที่ 14 มี.ค. 2564 เบื้องต้นทางฝ่ายวิจัยคาดว่าการผ่านมาตรการนี้จะหนุนการเกิดเงินเฟ้อ ทำให้บอนด์ยีลด์สหรัฐมีโอกาสเร่งตัวขึ้นได้อีก แต่จะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้มีโอกาสเดิบโตได้เกิน 5%

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องในช่วงสั้น แต่เชื่อว่าจะอ่อนค่าลงในท้ายที่สุด และต้องระวังการ Rotation โดยขายทำกำไรจากหุ้น Growth Stock โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีไปยัง Value Stock

ประเด็นสำคัญรอบสัปดาห์ 1.การประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่คาดว่าอาจเผยท่าทีต่อความกังวลเงินเฟ้อหรือการเร่งตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ ซึ่งน่าจะส่งผลต่อการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในสัปดาห์หน้า 2.ติดตามภาคการท่องเที่ยวเสนอรัฐบาลเลิกกักตัวแล้วทำวัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) และ 3.การเมืองภายในประเทศ จับตาการลงมติของศาลรัฐธรรมนูญกรณีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา ที่หากผลออกมาให้แก้รายมาตรา, ไม่ให้ตั้ง ส.ส.ร. ร่างใหม่ทั้งฉบับ จะเริ่มเป็นปัจจัยลบที่ต้องติดตามท่าทีแต่ละฝ่ายอีกครั้ง