TMBAM เผยผลการดำเนินงานปี 2017

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM) แถลงผลการดำเนินงานปี 2017 ประสบผลสำเร็จในการดำเนินงานทุกภาคส่วน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การจัดการ (AUM) ทั้งสองปีเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในรอบปี 2017 ที่ AUM เติบโตขึ้นกว่า 114,000 ล้านบาท โดย ณ 17 พ.ย. 2017 AUM รวมอยู่ที่ 418,168 ล้านบาท*

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากองค์ประกอบที่โดดเด่นหลายประการ อาทิเช่น 1) การมีกองทุนที่ตรงใจลูกค้าทำให้เติบโตอย่างรวดเร็วจนมีขนาดกองทุนกว่าแสนล้านบาทถึงสองกองทุนได้แก่กองทุนเปิดทหารไทย Global Income (กองทุน FIF ประเภทตราหนี้ทั่วโลก) และกองทุนเปิดทหารไทยธนพลัส (กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น) 2) การได้รับรางวัลการันตีผลการดำเนินงานอันยอดเยี่ยมทั้งธุรกิจกองทุนรวม อันได้แก่ รางวัลกองทุนตราสารหนี้ยอดเยี่ยมปี 2017 ประเภทตราสารหนี้ระยะสั้นยอดเยี่ยมจาก Morningstar สำหรับกองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาล และกองทุนตราสารหนี้ทั่วไปยอดเยี่ยมปี 2017 จาก Money & Banking Award สำหรับกองทุนเปิดทหารไทยธนไพบูลย์ และธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สำหรับเกียรติยศอันสูงสุด
รางวัลโล่ห์พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพยอดเยี่ยม 2 ปีซ้อน (2558-2559)ในประเภทกองทุนที่จัดการแบบกองทุนร่วม (Pooled Fund) 3) การมีผลการดำเนินงานของกองทุนโดยรวมที่ยอดเยี่ยมโดยในรอบระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา กองทุนรวมภายใต้การบริหารจัดการเกือบทั้งหมด (63 จาก 64 กองทุน) มีผลการดำเนินงานเป็นบวก (ยกเว้น 1 กองทุนคือ TMB Gold Fund ซึ่งราคาทองคำและอัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปตามธรรมชาติตามกลไกตลาดโลก) และ 4).การสร้างประวัติศาสตร์ในการบริหารกองทุนประเภทดัชนีหุ้นไทยที่ กองทุนเปิดทหารไทย SET50 เติบโตจน NAV กว่า 100 บาท
(อยู่ที่ 99.7576 บาท ณ 17 พ.ย. 2017) และการประสบผลสำเร็จในการออกกองทุนหุ้นไทยคือกองทุนรวมหุ้น ทีเอ็มบี ธรรมาภิบาลไทย ที่แบ่งรายได้ครึ่งหนึ่งของค่าบริหารจัดการทำประโยชน์แก่สังคม โดยเฉพาะเพื่อส่งเสริมการหลักธรรมาภิบาล ต่อต้านคอรัปชั่น รวมถึงสนันสนุนมูลนิธิทีเอ็มบี เพื่อจุดประกายเยาวชน โดยปัจจุบันกองทุนเติบโตจนมีขนาด AUM ถึง 1,786 ล้านบาท (ณ 17 พ.ย. 2017) เป็นต้น

(*ยอดรวม AUM ดังกล่าวไม่รวมบางธุรกิจที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทฯ อาทิกองทุน ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายใน SET คือ ENGY และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ LUXF, การลงทุนโดยตรงของธุรกิจ Private Fund และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแบบ Single Fund)

นอกจากความโดดเด่นของผลการดำเนินงานทั้งธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว ดร.สมจินต์ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า TMBAM เน้นเป็นอย่างยิ่งในการมุ่งสร้างประสบการณ์ต่อแบรนด์ (Brand Experience) และความผูกพัน (Engagement) ที่แนบแน่นกับลูกค้า โดยมุ่งสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ที่มีคุณค่าเสมือน “คู่ชีวิตการลงทุน” เพื่อให้ลูกค้าเกิดความผูกพันและพึงพอใจรู้สึกอุ่นใจที่ไว้วางใจให้บริษัทเป็นผู้บริหารเงินลงทุน ในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวประกอบด้วย 1) Educational Marketing โดยมุ่งการเติมเต็มความรู้ความเข้าใจและให้ข่าวสารด้านการลงทุนที่มีคุณค่าเพื่อช่วยให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนการเงินการลงทุนส่วนบุคคลได้อย่างเป็นรูปธรรม สามารถลงทุนได้เต็มศักยภาพของตนเองภายใต้ความเสี่ยงที่รับได้ การสร้างช่องทางสื่อสารแบบดิจิตอล รูปแบบใหม่เพื่อส่งผ่านความรู้ อัพเดทข่าวสารทางเศรษฐกิจการลงทุน อาทิ LINE@ TMBAM ที่ปัจจุบันมีผู้ติดตามถึง 29,500 ราย การพัฒนาโปรแกรมผู้ช่วยอัจฉริยะเพื่อแนะนำการบริหารพอร์ตการลงทุน และติดตามผลเพื่อให้การลงทุนประสบผลสำเร็จ ได้แก่ โปรแกรม My Dream

สำหรับสมาชิกผู้ถือหน่วยกองทุนรวมของ TMBAM โปรแกรม Retire Rich Workbook สำหรับสมาชิกผู้ใช้บริการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ TMBAM และโปรแกรมน้องใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นในปีนี้เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนคนไทยทั่วไปสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเกษียณ มีเงินดำรงชีพอย่างเพียงพอ และมีความสุข คือโปรแกรม RetireRich ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้บริการแล้วมากกว่า 5,000 คน

2) Seamless Channels โดยมุ่งสร้างช่องทางการลงทุนที่เข้าถึงและใช้บริการได้ง่าย (User Friendly) ครบถ้วน สามารถตอบโจทย์ความต้องการแบบเบ็ดเสร็จ ในทุกจุดของการให้บริการ ได้แก่ การให้บริการผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดจากสำนักงานใหญ่ สาขาธนาคารทีเอ็มบี หรือตัวแทนขายอื่นๆ รวมถึงการให้บริการผ่าน
ทางระบบออนไลน์อินเตอร์เน็ต 24 ชั่วโมง “FundLink Online” สำหรับกองทุนรวมทั่วไป และ “FundLink M choice Online” สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 1725 โดยทีมบุคลากรเจ้าหน้าที่การตลาดที่มีคุณภาพ มีใบอนุญาติ พร้อมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ไปยังลูกค้าหรือกลุ่มบุคคลที่สนใจ

“ปัจจัยที่สำคัญยิ่งแห่งความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดในรอบปีที่ผ่านมา เกิดจากแรงสนับสนุนและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับธนาคารแม่ ทีเอ็มบี และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทั้ง 44 บริษัท รวมทั้งพันธมิตรธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง ทำให้ปี 2017 นี้นับเป็นปีแห่งการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าสร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีต่อ แบรนด์ โดยมีผู้ลงทุนเป็นจุดศูนย์กลาง เรา TMBAM จะยึดมั่นในการสานต่อเจตนารมณ์ของการเป็น “คู่ชีวิตการลงทุน” ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนของ TMBAM ทุกท่าน สนับสนุนและเผยแพร่ความรู้ทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยสร้างวัฒนธรรมทางการลงทุนให้เกิดแก่สังคมในวงกว้าง ร่วมสร้างคุณภาพชีวิตและช่วยยกระดับฐานะทางการเงินของคนไทยทุกคน” ดร.สมจินต์กล่าว