“บิตคอยน์” ผลตอบแทนพุ่งทะลุ 100% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

บิตคอยน์

ก.ล.ต. เผยตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลสัปดาห์ที่ผ่านมามูลค่าทั่วโลกอยู่ที่ 2.46 ล้านล้านดอลลาร์ ซื้อขายต่อวัน 104.30 พันล้านดอลลาร์ ผลตอบแทน ‘บิตคอยน์’ พุ่งทะยานสูงขึ้นอยู่ที่ +109.80% เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +96.04% ‘อีเธอร์เรียม’ เพิ่มขึ้น +411.56% ขณะที่ยอดเปิดบัญชีในสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 3.70 แสนบัญชี โดยมูลค่าซื้อขายส่วนใหญ่ยังคงมาจากรายย่อยในประเทศ มีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 5.0 หมื่นล้านบาท โดยการซื้อขายสูงสุดอยู่ในช่วง 21.00 น. และ 24.00 น.

วันที่ 23 ตุลาคม 2564 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานภาวะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล พบว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก มีมูลค่าตามมาร์เก็ตแคป (Market cap.) ประมาณ 2.46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.34 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกว่า 47.21% มาจากบิตคอยน์ (Bitcoin) และมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 104.30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 109.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา: coinmarketcap 18 ต.ค.64)

ทั้งนี้ พบว่าสินทรัพย์ดิจิทัลให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับหลักทรัพย์ทองคำและน้ำมัน โดยมูลค่าอีเธอร์เรียม (Ethereum) ในสัปดาห์นี้ยังให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในแอสเสทคลาส +411.56% เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +378.39% ตามด้วย XRP อยู่ที่ +353.69% ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +367.79% สำหรับบิตคอยน์ (Bitcoin) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผลตอบแทนพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ +109.80% เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +96.04%

ขณะที่ผลตอบแทนน้ำมัน (Oil) อยู่ที่ +69.91% ส่วนทองคำ(Gold) อยู่ที่ -7.05% โดยราคาสินทรัพย์ดิจิทัลก็ยังมีความเสี่ยงและความผันผวนค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับราคาหุ้นไทย (SET INDEX) ที่ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ +13.42% (ที่มา : Bloomberg 18 ต.ค.64)

ทั้งนี้มูลค่าการซื้อขายเริ่มยังคงสูงขึ้นตามแนวโน้มราคาของตลาดสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) โดยพบว่าเหรียญสกุล บิตคอยน์ (Bitcoin) และ อีเธอร์เรียม (Ethereum) ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าเหรียญสกุลอื่น ๆ ดังนั้น จึงเริ่มมีการกระจายของมูลค่าการซื้อขายของเหรียญต่างๆ มากขึ้น

"บิตคอยน์" ผลตอบแทนพุ่งทะยานขึ้นเเตะที่ระดับ 109.80%

สำหรับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 7.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 4.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่จำนวนบัญชีซื้อขายของบุคคลธรรมดาในประเทศยังคงมีการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับทิศทางของราคาตลาด โดยพบว่าหลังจากช่วงที่มีบัญชีการซื้อขายสูงสุดในเดือน พ.ค. จำนวนบัญชีมีการปรับตัวลดลง และเริ่มกลับมาเห็นจำนวนบัญชีเพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค.ตามภาวะของตลาด

โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่ามียอดเปิดบัญชี 3.70 แสนบัญชี เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 3.07 แสนบัญชี ขณะที่มูลค่าซื้อขายส่วนใหญ่ยังคงมาจากการซื้อขายของนักลงทุนรายย่อยในประเทศ โดยมีมูลค่าซื้อขายในสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 5.0 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 3.2 หมื่นล้านบาท

ส่วนนิติบุคคลต่างชาติยังคงเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อบัญชีสูงที่สุด มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยในสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 186.76 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 152.06 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ในเดือน ก.ย. บุคคลธรรมดาในประเทศกลับมามียอดซื้อสุทธินับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ในขณะที่ผู้ซื้อขายประเภทอื่นมียอดขายสุทธิ อย่างไรก็ดี ในเดือน ต.ค. บุคคลธรรมดาในประเทศมียอดขายสุทธิ ในขณะที่นิติบุคคลต่างประเทศมียอดซื้อสุทธิเพิ่มขึ้น

โดยการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเกิดขึ้นตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการซื้อขายสูงสุดอยู่ในช่วงเวลา  21.00 และ 24.00 น. (ข้อมูล ณ 18 ต.ค.64)