อาคม ชี้เศรษฐกิจต้องฟื้นตัวเต็มที่ ก่อนปรับขึ้นดอกเบี้ยในประเทศ

รมว.คลัง ส่งสัญญาณดอกเบี้ยนโยบายจะไม่ปรับขึ้นจนกว่าเศรษฐกิจไทย จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ หวังดูแลให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นโยบายอัตราดอกเบี้ยของไทยในปี 2565 จะต้องให้ความมั่นใจว่า เศรษฐกิจไทยจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศ ซึ่งท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 การดำเนินนโยบายการคลังกับนโยบายการเงินจะต้องสอดประสานกัน

ทั้งนี้ ในช่วงปี 2565 นั้น มักจะได้ยินว่า เศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาเริ่มฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด ฉะนั้น นโยบายการเงินของสหรัฐอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะกระทบต่อระบบการเงินทั่วโลก กรณีของเราการประสานนโยบายการคลังกับนโยบายการเงินนั้น ก็สอดประสานกัน ซึ่งในช่วงที่ประเทศไทยประสบสถานการณ์โควิด-19 นโยบายการคลังจะทำงานหลัก โดยที่นโยบายการเงินจะผ่อนคลาย เพื่อให้ภาครัฐสามารถใช้เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณให้มากขึ้น ซึ่งรวมถึง การกู้เงินมา 1.5 ล้านล้านบาท

“เรื่องการกู้เงินดังกล่าว จะเป็นภาระที่เราต้องใช้หนี้ต่อไป ฉะนั้น สถานการณ์อย่างนี้ นโยบายการเงินต้องผ่อนคลาย คำถาม คือ ในปี 2565 ถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ยแล้ว เราจะขึ้นตามไหม ทาง ธปท. ก็จะพูดในประเด็นนี้ว่า เราต้องให้ความมั่นใจว่า เศรษฐกิจเราฟื้นตัวเต็มที่”

นอกจากนี้ สิ่งที่อยากจะเรียนว่า ขณะที่ เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เราจำเป็นที่จะต้องพิจารณานโยบายการคลังที่ยั่งยืน ฉะนั้น เรื่องการบริหารจัดการหนี้สาธารณะของเราแม้จะขยายเป็นไม่เกิน 70% ของจีดีพีแล้วก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะกู้ให้เต็มเพดาน ซึ่งขึ้นอยู่กับความจำเป็นและวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ฉะนั้น การพัฒนาเรื่องการคลังที่ยั่งยืน ก็ต้องมองไปที่การใช้จ่ายและการหามาซึ่งรายได้ของภาครัฐ ก็คงเรียนว่า การขยายการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องคำนึงถึง

“หากมองประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนหรือเอเชียก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกันว่า โดยรัฐบาลก็ใช้จ่ายมากขึ้น ฉะนั้น การจัดเก็บรายได้ก็ต้องปรับตัวขึ้นไปทั้งในหลายประเทศของเราก็เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่า ช่วงจังหวะที่เหมาะสมก็คงมีแนวนโยบายเรื่องการปรับโครงสร้างการจัดเก็บรายได้ภาครัฐ”