บิ๊ก บจ.ชิงขายหุ้นเทรดวันแรก ทิ้งยกลอตฟันกำไรอื้อซ่าสบช่องเลี่ยงภาษี

ผู้ถือหุ้นใหญ่หุ้นน้องใหม่ แห่เทขายหุ้นบิ๊กลอตช่วงเปิดเทรดวันแรก หวัง “เลี่ยงภาษี-ฟันกำไร” เผยเดือน ธ.ค. มี 4 บจ.น้องใหม่ ตบเท้าโกยกำไรรวมกว่า 5,376 ล้านบาท ด้าน GULF-GPI แจง ตลท.กรณีบิ๊ก บจ.ทำรายการขายบิ๊กลอตหุ้นวันแรก ฟาก ก.ล.ต. เตรียมนำกรณีดังกล่าวกลับไปตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา (1- 8 ธ.ค. 60) มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯอย่างต่อเนื่อง อาทิ บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (GPI), บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF), บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) และ บมจ.ฮิวแมนิก้า (HUMAN) ซึ่งพบว่า หุ้นดังกล่าวได้เข้าทำการซื้อขายหุ้นวันแรก ได้มีการทำรายการซื้อขายหุ้นรายการใหญ่บนกระดาน (บิ๊กลอต) ทุกตัวดังนี้ GPI มีขายบิ๊กลอตจำนวน 70 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 3.50 บาท ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 245 ล้านบาท, GULF จำนวน 106.95 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 46.75 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 5 พันล้านบาท, THG จำนวน 1,000,001 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 36 บาท ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 36 ล้านบาท และ HUMAN ที่จำนวน 19 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 5 บาท ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 95 ล้านบาท โดยมียอดขายหุ้นบิ๊กลอตรวมทั้งหมดมีจำนวนราว 196.95 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมกันกว่า 5,376 ล้านบาท

ขณะที่ราคาหุ้นของทั้ง 4 บริษัทดังกล่าว ในช่วงวันซื้อขายวันแรกกลับมีทิศทางแตกต่างกัน โดยหุ้น GPI ราคาหุ้นซื้อขายวันแรกปิดที่ระดับ 3.16 บาท ต่ำกว่าราคาจอง (IPO) ที่อยู่ 3.50 บาท, GULF ราคาหุ้นปิดวันแรกที่ 53.75 บาท สูงกว่าราคาจองที่อยู่ 45.00 บาท, THG ปิดวันแรกที่ 36.75 บาท ต่ำกว่าราคา IPO ที่ 38.00 บาท และ HUMAN ปิดวันแรกอยู่ที่ 8.05 บาท สูงกว่าราคา IPO ที่ 4.00 บาท และล่าสุด (13 ธ.ค. 60) ราคาหุ้น GPI และ THG ยังปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจอง ขณะที่ GULF และ HUMAN ราคาหุ้นยังสามารถยืนเหนือราคาจองได้

แหล่งข่าวจากวงการที่ปรึกษาการเงิน (FA) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การทำรายการซื้อขายหุ้นบิ๊กลอตในช่วงวันเปิดเทรดวันแรกของ บจ.น้องใหม่ น่าจะมีการตกลงกันกับผู้ซื้อล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งบางบริษัทอาจมีการเปิดเผยอยู่ในไฟลิ่ง (แบบแสดงข้อมูลต่อ ก.ล.ต.) ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่ของที่ปรึกษาทางการเงินและอันเดอร์ไรเตอร์ที่จะต้องช่วยทำความเข้าใจให้แก่นักลงทุน แต่ประเด็นคือ FA ส่วนใหญ่ไม่ค่อยพูดประเด็นนี้กับนักลงทุนรายย่อยเท่าที่ควร จึงอาจมีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนได้

ส่วนสาเหตุของการขายหุ้นบิ๊กลอตในวันแรกที่เข้าเทรดนั้น เพราะการทำรายการบนกระดานหุ้นจะไม่เสียภาษีกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น (capital gain) จึงฉวยจังหวะในวันเข้าเทรดวันแรกในการทำรายการกัน ซึ่งหากซื้อขายหุ้นกันก่อนหน้าเข้าเทรดอาจจะมีภาระเรื่องภาษีได้

Advertisment

ด้าน GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าในวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ซึ่งเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้ทำรายการซื้อขายหุ้นบิ๊กลอต จำนวน 64 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 45 บาท ให้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ส่วนนายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (GPI) กล่าวว่า การทำรายการขายบิ๊กลอตจำนวน 70 ล้านหุ้น ในการเข้าเทรดวันแรกเพียงวันเดียว ซึ่งเป็นการทำตามที่ได้ระบุไว้แล้วในหนังสือชี้ชวน

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การทำรายการลักษณะดังกล่าว ตลท.คงไม่สามารถห้ามได้ เนื่องจากผู้ถือหุ้นเดิมสามารถทำได้ อีกทั้งเป็นการทำรายการแบบเปิดเผย ซึ่งบางส่วนก็มีการแจ้งในหนังสือชี้ชวนด้วย และดีลที่เกิดก็ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับหุ้นไอพีโอทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม การจัดสรรหุ้นไอพีโอของ บจ.นั้น ตามปกติทาง ก.ล.ต.มีความเข้มงวดอยู่แล้ว ซึ่งในกรณีที่ผู้ถือหุ้นมีการขายหุ้นออก ทาง ก.ล.ต.คงจับตาอยู่เหมือนกัน เนื่องจากการจัดสรรหุ้นให้แก่ผู้ลงทุนมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน และ ก.ล.ต.ก็คงอยากจะให้ตรงกลุ่มเป้าหมายนักลงทุนให้เต็มที่

“การที่มีการขายบิ๊กลอตออกมาในวันแรกของวันทำการซื้อขายจริง ๆ คงต้องบอกว่าเราไม่อยากเห็น แต่ว่าก็เป็นสิทธิ์ของผู้ถือหุ้นเดิมตราบใดที่เขาไม่ได้ถูกล็อกอยู่ในกระบวนการไซเลนต์พีเรียด (ห้ามขายในช่วงเวลาที่กำหนด) ซึ่งเราคงไปห้ามไม่ได้” นายสันติกล่าว

Advertisment

นายประกิด บุณยัษฐิติ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งทาง ก.ล.ต.จะมีการกลับไปตรวจสอบข้อมูลก่อนว่า เกิดขึ้นเพราะอะไร แต่ในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นเพราะเจ้าของเดิมบางส่วนอาจต้องการขายหุ้นอยู่แล้ว ก็เลยขายออกมาในช่วงวันเข้าเทรดวันแรกเพราะจะได้ไม่ต้องเสียภาษี